ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว ลุ้นยืนเหนือ 1,680 เพื่อยกกรอบการเล่น

ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว ลุ้นยืนเหนือ 1,680 เพื่อยกกรอบการเล่น

กลุ่มจีนรายงาน GDP อ่อนตัวแต่ดีกว่าคาด จีนรายงาน GDP ไตรมาส 4/64 ที่ 4% YoY และทั้งปี 2564 ที่ 8.1% ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าและปีก่อนหน้าที่ 4.9% และ 9.8% แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.3% และ 8.0%

อย่างไรก็ตามทางการจีนได้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปี ลง 0.1% สู่ระดับ 2.85% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับแต่ เม.ย.64 และอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินจำนวน 2 แสนล้านหยวน เพื่อประคองเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง (GDP 2565 : World Bank 5.1%, IMF 5.6%, Goldman Sachs 4.3%) ซึ่งบนสมมติฐานที่จีนไม่เกิดปัญหาเศรษฐกิจลุกลามจนเป็นวิกฤติ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะยังอยู่บนทิศทางฟื้นตัว ซึ่งยังเป็นบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ปิโตรเคมีแนวโน้มชะลอ คนที่กำไรเด่นเหลือเพียง IVL วันนี้เราปรับลดคำแนะนำและราคาเหมาะสมของหุ้นปิโตรเคมีลง 2 ตัว ได้แก่ 1) PTTGC (ถือ ราคาเหมาะสม 57 บาท – จาก 77 บาท) คาดกำไรปกติไตรมาส 4/64 ที่ 4.5 พันล้านบาท ลดลง 52.5% QoQ จากธุรกิจปิโตรเคมีที่ชะลอทั้งโอเลฟินส์และอะไรเมติกส์ ขณะที่กำไรครึ่งแรกปี 2565 จะค่อนข้างอ่อนแอจากการต้องใช้แนฟทาที่ราคาแพงเพราะข้อจำกัดของอุปทานก๊าซธรรมชาติของแหล่งเอราวัณ ทำให้เราปรับลดกำไรปี 64-65 ลวง 9.7% และ 26% ตามลำดับ 2) IRPC (ถือ ราคาเหมาะสม 4.50 บาท – จาก 5.40 บาท) คาดกำไรไตรมาส 4/64 660 ล้านบาท -23% QoQ +162% YoY ถึงแม้ค่าการกลั่น (GIM) จะสูง แต่ผลกระทบด้านต้นทุนและส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่อ่อนแอลง ทำให้คาดกำไรปี 2565 จะเติบโตเพียง 5.8% // สำหรับกลุ่มปิโตรเคมีเรายังให้ top pick เปผ็น IVL เพียงตัวเดียว จากแนวโน้มกำไรที่ดีกว่าคนอื่นและยังเป็นขาขึ้นในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ บวกต่อ CK, STEC, ITD, UNIQ 2) กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดเก็งกำไรการเข้าสู่ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล และผลประกอบการปี 2564 ที่น่าจะเห็นการจ่ายปันผลในระดับที่ดี อย่างไรก็ตามยังมีความไม่ชัดเจนของภาพรายได้ปี 2565 อีกมาก การเก็งกำไรจึงควรกำหนจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง KGI, ASP, CGH, FSS 3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC 4) กลุ่มบันเทิง ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากงบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO 5) หุ้นเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ SFT, WFX, CV, UBE, VPO, CPI, TOP, GJS, RAM, IND

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,667-1,690 จุด โดยบรรยากาศเก็งกำไรหุ้นรายตัวยังเป็นบวก ขณะที่คาดพลังงานจะเป็นหุ้นทำหน้าที่ประคอง SET Index การอ่อนตัวไม่หลุด 1,660 จุด บรรยากาศเก็งกำไรเชิงบวกยังไม่เปลี่ยนแปลง //หุ้นแนะนำ: BANPU*, ASW*, AMANAH*, SFT*

แนวรับ: 1,667 / แนวต้าน : 1,680-1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

จับตาผลประชุม BOJ วันนี้ – จับตาผลการประชุมนโยบายการเงิน BOJ วันนี้ คาดว่ามีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% และคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0%

ดันเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 เข้าครม.เปิดจองสิทธิ์ก.พ. - เตรียมเสนอเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 เข้าครม.กุมภาพันธ์ ตัดงบทัวร์เที่ยวไทยเหลือ 2 แสนสิทธิ์

คลังไม่ต่อเวลาลดภาษีที่ดิน – กระทรวงการคลังยืนยันเดินหน้าเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% ในปีนี้หลังจัดเก็บในอัตราลด 90% มากว่า 2 ปี

GULF  – กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ส่งบริษัทย่อยจับมือกลุ่ม Binance ศึกษาและจัดทำแผนพัฒนาธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในไทย

 

ประเด็นติดตาม: - 21 ม.ค. – ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร / 26 ม.ค. – Fed meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)