วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ม.ค. 65)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ม.ค. 65)

ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เร็วกว่าที่คาด หากอัตราเงินเฟ้อไม่ดีขึ้นเร็วพอ

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) สาขาชิคาโก กล่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสี่ครั้งในปี 2565 หากอัตราเงินเฟ้อไม่ดีขึ้นเร็วพอ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานาน ธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงต้องดำเนินการปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่สูง อาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เข้ามาควบคุมเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการฉุดรั้งราคาน้ำมันดิบในขณะที่สนับสนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)_รายงานกำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับลดลง 294,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้อัตราการใช้ลดลง 1.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

+ ตลาดคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันมากนัก และจะกดดันตลาดในระยะสั้นเท่านั้น ในขณะที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นในอเมริกาเหนือจะช่วยสนับสนุนให้อุปสงค์น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นของอินโดนีเซีย ในขณะที่น้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา


ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนที่ปรับลดลงกว่า 38% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
 

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ม.ค. 65)