เข้าสู่ช่วงเทศกาลประกาศผลประกอบการ (13 ม.ค. 65)

เข้าสู่ช่วงเทศกาลประกาศผลประกอบการ (13 ม.ค. 65)

เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงสุดในรอบ 40 ปี แต่ใกล้เคียงที่ตลาดคาด ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ธ.ค. +0.6% MoM และ +7.0% YoY ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 40 ปี

อย่างไรก็ตาม เราคาดระดับเงินเฟ้อดังกล่าวจะไม่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดมากนักหลังประธานเฟด ออกมาให้ความมั่นใจในการรับมือกับเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณยืนยันถึงการจะไม่มีนโยบายลดสภาพคล่องในระบบผ่านการลดขนาดงบดุลอย่างน้อยที่สุดก่อนการประชุม 15-16 มี.ค. ดังนั้นเรายังคงมุมมองต่อบรรยากาศลงทุนเชิงบวกในช่วงต้นปี ขณะที่อาจต้องเพิ่มความระวังต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางของเงินทุนเพื่อรับมือกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังการประชุมรอบ 3-4 พ.ค.เป็นต้นไป

 

คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนและตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในรระดับสูงหนุนการเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ธ.ค.ออกมาที่ 10.3% และ 1.5% ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงจากพ.ย.ที่ 12.9% และ 2.3% ทำให้นักลงทุนคาดการณ์จีนอาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่เงินเฟ้อที่น่าจะอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี (แม้น่าจะสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรก) ประกอบกับการใกล้เข้าสู่วัฎจักรของการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เงินลงทุนบางส่วนเข้าเก็งกำไรในราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเรามองเป็นโอกาสในการเลือกซื้อ (selective buy) โดยคาดบรรยากาศเก็งกำไรของกลุ่มนี้จะเป็นบวกในช่วง 4 เดือนแรกของปี ถึงก่อนการรายงานงบไตรมาส 1/65 ในช่วง พ.ค. โดยหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ BANPU, PTTEP, IVL, OR และอาจเก็งกำไรในกลุ่มโรงกลั่น
 

กลุ่มธนาคารกำไรไตรมาส 4/64 คาดเป็นจุดต่ำสุด ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 1/65

ราคาหุ้นธนาคารมักปรับตัวลดลงหรือชะลอตัวในช่วงประกาศงบ แต่การอ่อนตัวจะเป็นโอกาสลงทุนหุ้นในกลุ่ม โดยเรายังชอบหุ้นใหญ่จากทิศทางของสินเชื่อที่เติบโตดี // ขณะที่ช่วงปลายเดือน ม.ค. จะเห็นการรายงานผลประกอบการหุ้นใหญ่ อาทิ SCGP, SCC และ PTTEP // SCC จะรายงานกำไรสุทธิ 10,122 ล้านบาท +48.5% QoQ และ +25.8% YoY ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีการด้อยค่าโรงปูนที่พม่า 2,400 ล้านบาท เราให้ราคาเหมาะสมที่ 500 บาท และคำแนะนำซื้อ อย่างไรก็ตาม Top pick กลุ่มปิโตรเคมี เรายังให้ IVL จากแนวโน้มกำไรที่จะเติบโตเด่นกว่ากลุ่มในช่วง 2-3 ไตรมาสหน้า

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,667-1,690 จุด อาจมีแรงขายทำกำไรสลับ แต่บรรยากาศเก็งกำไรโดยรวมคาดยังเป็นบวกหลังประธานเฟดส่งสัญญาณการที่ตีความได้ว่าการลดงบดุลไม่เกิดขึ้นก่อน การประชุมมี.ค. ขณะที่ธนาคารอาจมีการขายทำกำไรก่อนประกาศงบ ซึ่งการอ่อนตัวจะเป็นโอกาสเข้าลงทุน //หุ้นแนะนำ: IVL*, CPI*, ASW*, IND*

แนวรับ: 1,667 / แนวต้าน : 1,680-1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

เวิลด์แบงก์หั่นเป้าเศรษฐกิจไทยเหลือ 3.9% – ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของไทยในปีนี้สู่ระดับ 3.9% โดยลดลง 1.2% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.2564 

กกร.ชี้เศรษฐกิจพื้นไตรมาส 2Q65 - กกร.ชี้โอมิครอนกระทบเศรษฐกิจต้นปี 65 คาดคลี่คลายไตรมาส 2 หลังความรุนแรงของโรคไม่มาก รัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ ตั้งเป้าจีดีพี 3.0-4.5%

น้ำมันดิบปรับขึ้น 1% - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 1% ทะลุระดับ 82 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อคน้ำมันดิบลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.6 ล้านบาร์เรล

เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน – กระทรวงท่องเที่ยวเตรียมเสนอเก็บค่าเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวคนละ 300 บาท ตั้งเป้า 5 ล้านคน เพื่อนำส่งเงินเข้ารัฐ โดยแบ่งส่วนเพื่อประกันชีวิตและอาจรวมถึงประกันสุขภาพให้แก่นักท่องเที่ยว  

ประเด็นติดตาม: - 20 ม.ค. – ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร / 26 ม.ค. – Fed meeting
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)