ติดตามการแถลงของประธานเฟดและข้อมูลเงินเฟ้อ

ติดตามการแถลงของประธานเฟดและข้อมูลเงินเฟ้อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนก่อนการแถลงของประธานเฟด ตลาดหุ้น Nasdaq ปรับลดลง -2.6% ก่อนฟื้นตัวขึ้นมาปิด +0.05% โดยการปรับลดลงในช่วงแรกเกิดจากความกังวลที่โกลด์แมนแซคส์ คาดเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 4 ครั้ง

ขณะที่น่าจะเริ่มมีการปรับลดงบดุลตั้งแต่ก.ค. ก่อนจะฟื้นตัวเนื่องจากการเปิดเผยร่างการแถลงในคืนนี้ ซึ่งค่อนข้างจะยืนยันมุมมองว่าเฟดมีเครื่องมือเพียงพอ ในการรับมือกับเงินเฟ้อ และมีความยืดหยุ่นที่จะปรับตัวตามข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง เราคาดตลาดจะผันผวนระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในวันุธนี้ โดย Bloomberg Concensus คาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะออกมาที่ +0.4% MoM (จากเดือนก่อนที่ +0.8%) และ +7.1% YoY (จากเดือนก่อนที่ 6.8%)

 

กลุ่มสินเชื่อเพื่อการบริโภค (Consumer finance) เราคาดบริษัทในกลุ่มที่เราวิเคราะห์จะรายงานผลประกอบการเพิ่มขึ้น 7% YoY และ 11% QoQ จากสินเชื่อที่เติบโตขึ้นหลังการกลับมาเปิดเมืองและความต้องการสินเชื่อตามฤดูกาล ขณะเดียวกันเรามองร่างสัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่ที่จะมีการเปิดเผยในช่วงปลายเดือนม.ค.65 มีโอกาสที่จะเห็นการปรับเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อเป็น 24-26% (จากร่างก่อนหน้าที่ 20%) ซึ่งจะช่วยลดความกังวลของผู้ประกอบการ และเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นให้กับหุ้นในกลุ่มจำนำทะเบียนรถ โดยเราให้ TIDLOR เป็นหุ้นเด่น จากการเติบโตที่โดดเด่นเทียบกับกลุ่ม
 

ตลาดเริ่มหมุนมาเก็งกำไรหุ้นที่ซื้อขายต่ำมูลค่าทางบัญชี นักลงทุนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังต่อหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง และเราเริ่มเห็นแรงเก็งกำไรหมุนตัวไปยังหุ้นที่ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ซึ่งในกลุ่มหุ้นใหญ่ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ขณะที่ในหุ้นกลาง-เล็ก กระจายไปในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ การเงิน หลักทรัพย์ เหล็ก อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนในช่วงต้นปี อย่างไรก็ตามมีโอกาสที่ความผันผวนจากการปรับพอร์ตรับแนวโน้มการดำเนินนโยบายที่ตึงตัวมากขึ้น จะทำให้เกิดการหมุนกลุ่ม ไปยังหุ้นที่มี Valaution ไม่แพง และยังมีการถือครองต่ำ

 

การระบาดในประเทศและตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลบวกต่อหุ้นได้ประโยชน์จากปัจจัยภายนอก สถานการณ์ระบาดของสายพันธ์โอมิครอนในประเทศที่ผู้ติดเชื้อกำลังปรับเพิ่มขึ้นทำให้ในระยะสั้นนักลงทุนจะระมัดระวังหุ้นเปิดเมืองและหุ้นเกี่ยวกับการบริโภค ประกอบกับเงินเฟ้อในระดับสูง ทำให้กลุ่มได้ประโยชน์จากปัจจัยภายนอก (External play) จะกลับเข้าสู่กระแสของการเก็งกำไร โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ 1) IVL เราให้เป็น top pick กลุ่มปิโตรเคมีจากกำไรที่ยังเร่งตัวขึ้นได้ในช่วง 3 ไตรมาสหน้า 2) BANPU, PTTEP เป็นพลังงานต้นน้ำที่กำไรยังเร่งตัวขึ้นได้ในช่วง 2 ไตรมาสหน้า 3) TFG, GFPT, TU และ CPF กลุ่มอาหารได้ประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าสถานการณ์ระบาดของโรค ASF จะส่งผลบวกหรือลบต่อหุ้นผู้ผลิตเนื้อสุกร 4) SGP การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม คาดเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 
 

ภาพรวมกลยุทธ์: อาจผันผวนตามข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯและสถานการณ์ระบาดในประเทศ แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกสำหรับการลงทุนช่วง 4-5 เดือนแรก สำหรับผู้เก็งกำไร ไม่หลุด 1,640 จุด โมเมนตัมการเก็งกำไรไม่เปลี่ยนแปลง //หุ้นแนะนำ: BANPU*, TU*, SGP*, TVO*

แนวรับ: 1,640-1,648 / แนวต้าน : 1,660-1,680 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

อินโดฯยอมส่งออกถ่านหินหลังถูกหลายประเทศกดดัน- อินโดนีเซียอาจทำการอนุมัติการส่งออกถ่านหินอีกครั้ง หลังจากที่หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ต่างเรียกร้องให้อินโดนีเซียพิจารณาทบทวนคำสั่งห้ามส่งออกถ่านหิน

ถกกบง.วันนี้ ชี้ชะตาตรึงLPGครัวเรือน – วันนี้ชี้ชะตามาตรการดูแลราคา LPG ครัวเรือน ตรึงราคาที่ 318 บาทต่อถัง 15 กก.ต่อไปหรือไม่ ท่ามกลางภาระหนี้กองทุนน้ำมันอุ้มติดลบทะลุ 6,000 ล้านบาท

คมนาคมเตรียมของบ 3 แสนล้าน ลุยเมกะโปรเจกต์ - กระทรวงคมนาคม เตรียมชงของบ 85 โครงการ วงเงินรวมกว่า 3.22 แสนล้านบาท ลุยเมกะโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง ทั้งมอเตอร์เวย์-ถนน-ทางด่วน-ทางคู่

วัคซีนโอมิครอน – ซีอีโอของทาง Pfizer ระบุในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าวัคซีนสูตรใหม่ที่ถูกปรับให้ใช้กับสายพันธ์ โอมิครอน จะพร้อมใช้งานในมี.ค.65

 

ประเด็นติดตาม: - 20 ม.ค. – ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร / 26 ม.ค. – Fed meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)