Bank Sector ประมาณการ 4Q64F: กำไรฟื้นตัวตามสถานการณ์โควิด

Bank Sector ประมาณการ 4Q64F: กำไรฟื้นตัวตามสถานการณ์โควิด

กำไรที่ลดลง QoQ ใน 4Q64 สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลของธนาคารใหญ่ ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะฐานกำไรที่ต่ำผิดปกติของ BAY, BBL และ SCB

ในขณะเดียวกันกำไรทั้งปีที่เพิ่มขึ้นในปี 2564F สะท้อนถึงการปรับลดค่าใช้จ่ายในการกันสำรองลงประมาณ 30bps ในปี 2564F, รายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น 7%, NII ที่ทรงตัว, และการบีบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโตเพียง +2% แต่หากไม่รวมการตั้งสำรอง และ FVTPL กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรอง (PPOP) จะลดลง 4% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 12% YoY ใน 4Q64F และ เพิ่มขึ้น 3% ในปี 2564F (โดยส่วนใหญ่มาจาก BBL, KBANK และ KKP)

 

มีทางเลือกมากขึ้นในการจัดการหนี้เสีย
 

เนื่องจากมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ของทางการ ทำให้ธนาคารมีทางเลือกมากขึ้นในการจัดการกับหนี้ที่มี
ปัญหาโดยอาจพิจารณาตั้ง JV-AMC ร่วมกับบริษัทเอกชน, เก็บไว้ในรูป TDR ในธนาคาร, และขาย
ออกไปให้กับ AMC ของธนาคารเอง ซึ่งการมีทางเลือกมากขึ้นช่วยลดแรงกดดันทำให้ธนาคารมีเวลาใน
การบริหารจัดการ NPL และกำหนด credit cost ให้เหมาะสมกำหนดกับการเติบโตของกำไรธดังนั้นเรา
จึงคาดว่าสัดส่วน NPL จะทรงตัวใน 4Q64F และคชจ.สำรองฯลดลงเล็กน้อย และ -30% ในปี 2564F

 

 

ภาวะเศรษฐกิจเอื้อต่อธนาคารใหญ่

เมื่อพิจารณาจากผลด้านบวก และลบของการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น, เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น และอัตราดอกเบี้ยขยัสูงขึ้นแล้ว สถานการณ์นี้เป็นผลบวกกับธนาคาร เพราะมันผลสะท้อนของภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งจากข้อมูลในช่วงปี 2551-2555 สถานการณ์ลักษณะนี้ทำให้สินเชื่อเร่งตัวขึ้นแรง และหนุน NII ของธนาคารเติบโตขึ้นอย่างมาก ตามอัตราดอกเบี้ยที่ขยับสูงขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 6-12 เดือน เราคิดว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะส่งผลดีต่อธนาคารใหญ่ แต่ธนาคารเล็กจะถูกกระทบเนื่องจากพอร์ตสินเชื่อส่วนใหญ่คิดดอกเบี้ยในอัตราคงที่ เรามองว่าภาวะตลาดในปัจจุบันอาจจะเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสมมติฐานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2565/66 ของเราที่ 6%/8% ยังมี upside อีก โดยสินเชื่อที่โตเพิ่มขึ้นทุก ๆ 1% จะทำให้ประมาณการกำไรของเรามี upside เพิ่มอีก 0.7%

 

Valuation and action

การผ่อนคลายกฎเกณฑ์ของทางการเพื่อรับมือกับหนี้เสีย และ credit cost ที่ลดลงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนผลประกอบการในปี 2564F สำหรับแนวโน้มการเติบโตในปี 2565F ยังคงขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละธนาคารในการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ภายใต้สถาวะ new normal ซึ่งเราคาดว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีใหม่ (technology transforming) จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม และตัดสินว่าธนาคารใดจะเป็นผู้ชนะโดยเราเลือก SCB, KBANK และ KTB เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคาร

 

Risks

NPL และคชจ.สำรองเพิ่มขึ้น, รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง, ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเร่งตัวขึ้น