ท่องเที่ยวเล็งเพิ่ม ‘แซนด์บ็อกซ์’ รับมือโอมิครอน

กระทรวงท่องเที่ยวฯประเมินสถานการณ์โอมิครอนหลัง 4 ม.ค. อาจจำเป็นต้องเพิ่มแซนด์บ็อกซ์ คุมระบาดโอมิครอน ส่วนถ้าระบาดไม่มาก ททท.คาดเงินสะพัดรายได้ท่องเที่ยวปีใหม่ 8 พันล้านบาท

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิพัฒน์ รัชกิจประการ ระบุ หลังเทศกาลปีใหม่ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะประชุมกันในวันที่ 4 ม.ค.2565 เพื่อประเมินสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะการระบาดของโอมิครอน หากไม่มีการระบาดเพิ่ม ทาง ศบค. อาจจะพิจารณายกเลิกระงับการลงทะเบียนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวยื่นขอไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ประเภท Test & Go และแซนด์บ็อกซ์ ได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ หากสถานการณ์เปลี่ยน ภาครัฐจำเป็นต้องขยายระยะเวลา ก็ต้องผลักดันให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และในกรณีที่จำเป็นต้องเลื่อนการเปิดลงทะเบียนฯ กระทรวงฯต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าสามารถเลือกเปิดแซนด์บ็อกซ์รับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งสามารถเปิดได้สูงสุดใน 28 จังหวัด ว่าสามารถเลือกเปิดในจังหวัดไหนนอกจากภูเก็ต ขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมไม่ให้นักท่องเที่ยวออกนอกพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ได้ด้วย

ด้านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยุทธศักดิ์ สุภสร ระบุ ได้ประเมินผลกระทบโอมิครอน กรณีแรกหากยังไม่ทวีความรุนแรง หลายพื้นที่สามารถจัดงานเคาท์ดาวน์ได้ คาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะแผ่วลงกว่าช่วงวันหยุดก่อนหน้า ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย ทำให้จำนวนการเดินทางอยู่ที่ 2.63 ล้านคน-ครั้ง รายได้ทางการท่องเที่ยว 8,040 ล้านบาท อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 48%

กรณีที่ 2 หากโอมิครอนรุนแรงฉุดท่องเที่ยวซบเซา และต้องงดจัดงานเทศกาลปีใหม่เคาท์ดาวน์ ไม่ว่าจะใช้มาตรการล็อกดาวน์หรือไม่ก็ตาม จะส่งผลกระทบต่อท่องเที่ยวพร้อมกับฉุดให้เศรษฐกิจในประเทศตกอยู่ในภาวะหดตัว และกำลังซื้อของประชาชนยังไม่กลับเข้าสู่ระดับศักยภาพที่จะใช้จ่ายได้เหมือนก่อนเกิดวิกฤติโควิด ทำให้จำนวนครั้งในการเดินทางลดลง จึงคาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศจะกลับมาอยู่ในภาวะซบเซาอีกครั้ง โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563