PLANB - M&A จะเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนกำไรในปี FY22

(ii) ผลการดำเนินงานดีขึ้น โดย utilization rate เพิ่มขึ้นเป็น 50% ในเดือนพฤศจิกายนตามที่เราคาดไว้ (iii) เหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกไม่มาก

 

Utilization rate ฟื้นตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายนตามที่เราคาดไว้

PLANB เปิดเผยกับเราว่า utilization rate เพิ่มขึ้นเป็น 50% ในเดือนพฤศจิกายน จาก 36% ในเดือนตุลาคม และจากเฉลี่ย 34% ใน 3Q21 จากยอดโฆษณาที่กลับมาหลังจากที่แผ่วลงไปในช่วงก่อนหน้า และมีการจัดโปรโมชั่นช่วงปลายปี  โดย PLANB มองว่า utilization จะยังคงดีขึ้นแบบเดียวกันในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ PLANB ได้ทำการเพิ่มทุนไปเมื่อไม่นานนี้ โดยเม็ดเงินที่ระดมมาได้ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้รองรับการทำดีล M&A ซึ่งบริษัทจะพยายามปิดดีลให้ได้ใน 1Q22 ตามแผนที่วางเอาไว้ ถึงแม้ว่า IRR จากการลงทุนครั้งนี้จะไม่น่าสนใจมากนัก แต่ดีลนี้จะทำให้มี synergy กับการดำเนินงานในปัจจุบันของ PLANB

 

 

 

 

 

 

 

 

คาดว่าดีล M&A จะเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในปี FY22

เรายังคงคาดว่า PLANB จะพลิกมามีกำไร 2 ล้านบาทใน 4Q21 จากที่มีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 119 ล้านบาทใน 3Q21 จาก utilization rate ที่เพิ่มขึ้นเป็น 44% ใน 4Q21 จากเฉลี่ย 34% ใน 3Q21 เราคาดว่ายอดโฆษณาจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2022 จากการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เราใช้สมมติฐานว่าจะไม่มีการใช้มาตรการ lockdown รุนแรงในปี 2022 และยังไม่ได้รวมกำไรจากดีล M&A เข้ามาไว้ในประมาณการแม้ว่าดีลนี้น่าจะส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นส่วนน้อยก็ตาม

 

คงคำแนะนำ ถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 7.20 บาท

ราคาหุ้น PLANB วิ่งขึ้นมาแรงในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาจากเหตุผลสองประการ คือความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 4Q21 และข่าวดีล M&A ทั้งนี้ ประมาณการของเราสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของผลประกอบการตั้งแต่ 4Q21 ไปแล้ว แต่เราคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะรวมดีล M&A เข้ามาในประมาณการด้วยเนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดของดีล ในขณะเดียวกัน ราคาหุ้นก็ขยับขึ้นมาจนใกล้ราคาเป้าหมายของเราแล้ว ดังนั้น เราจึงแนะนำให้ถือ PLANB และจับตาดูข่าว M&S ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้น