Rebound - หุ้นรายงานพิเศษ JTS (22 ธ.ค. 64)

Rebound - หุ้นรายงานพิเศษ JTS (22 ธ.ค. 64)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวรีบาวนด์ขึ้นในช่วงเช้าประมาณ +11 จุด ก่อนที่ดัชนีจะย่อตัวลงเหลือ ปิดบวกราว 6 จุด ตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ทางศบค.สั่งยกเลิก Test&Go กับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ

ส่วนที่ประชุมครม.มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา เช่น โครงการช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกัน และ โครงการคนละครึ่ง เป็นต้น ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,622.25 จุด +6.45 จุด +0.40% มูลค่าการซื้อขาย 69,244 ลบ.ต่างชาติ +2,030.60 ลบ. TFEX +19,586 สัญญา ตราสารหนี้ +13,837.56 ลบ.


ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 560.54 จุด +1.60% หลังจาก ปธน.โจ ไบเดนยืนยันว่าสหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และนลท.ช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเดินทาง รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไมครอน เทคโนโลยี และไนกี้
+สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ +3.7% ปิดที่ 71.12 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันร่วงลงติดกัน 2 วันทำการ และการที่ปธน.โจไบเดนยืนยันว่าสหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศ
+นายกฯอังกฤษยืนยันไม่ประกาศมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนเทศกาลคริสต์มาส ในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 90,629 ราย
+FDA เตรียมอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน
+ครม.เคาะซื้อวัคซีนโควิดปี 65 รวม 90 ล้านโดส-เยียวยากลุ่มสถานบันเทิง-กระตุ้นท่องเที่ยว
+ครม.อนุมัติมาตรการของขวัญปีใหม่ ช้อปดีมีคืน-คนละครึ่งเฟส 4 ลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองที่อยู่อาศัย ลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูศก.ให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุน GDP 1Q65 เติบโตเพิ่ม 0.7%
+ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์งวด พ.ย.64 สูงสุดในรอบ 12 เดือน แม้ยอดผลิตลด 4.12% มูลค่าส่งออกโต 35.30% สูงสุดในรอบ 8 เดือน คาดปี 65 ยอดผลิตรวมแตะ 1.8 ล้านคัน

 

ปัจจัยลบ

- รมว.คลัง มอบสรรพากรหาช่องเก็บภาษีขายหุ้นหลังยกเว้นให้มานานซึ่งเดิมกำหนดจัดเก็บภาษีในอัตรา 0.1% ของรายรับ
+/- ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ เพิ่ม 2,532 ราย เสียชีวิต 31 ราย ATK 788 ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังสหรัฐประกาศจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,615-1,635 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่มีเข้าคำนวณ SET50 รอบ 1H65 : หุ้นเข้า AWC BANPU TIDLOR หุ้นออก BJC DELTA STA , SET100 : หุ้นเข้า AWC BLA BPP EPG KEX RCL SIRI STARK TIDLOR TTA หุ้นออก BJC DELTA AAV ICHI JAS NRF PRM PTL PSL TKN
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 STGT VIBHA BCH EKH CMR SMD WINMED PHOL
• ได้ประโยชน์จากโครงการ 'ช้อปดีมีคืน‘ COM7 SYNEX CPW SPVI SVOA JMART IT

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                         JTS - "เก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง"

•เป็นผู้นำด้านเหมืองขุดบิทคอยน์ในไทยเนื่องด้วยกำลังการขุดที่มากถึง 325 เครื่องส่งผลทำให้ได้มาด้วยจำนวนที่ 0.162 BTC/วัน คิดเป็น 59.041 BTC/ปี ล่าสุดวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา JTS สามารถขุดบิทคอยน์ได้ 8.511 BTC หรือมูลค่าราว 13.461 ล้านบาท

•ผู้บริหารเล็งเห็นถึงการเติบโตของราคาในอนาคต เนื่องจาก Supply ของเหรียญมีอยู่อย่างจำกัดและการเติบโตอย่างรวดเร็วของบล็อกเชน ทำให้ผู้บริหารกำลังขออนุมัติจากบอร์ดเพื่อออกหุ้นกู้มูลค่า 3,300 ลบ. เพื่อเพิ่มกำลังการขุดให้มากยิ่งขึ้นที่ 8,025 เครื่อง ทำให้เพิ่มกำลังการขุดมากถึง 3,500 เท่า หรือ 5.54 BTC/วัน ภายในปี 2565 และเป้าหมายปี 2567 ที่ 9,600 BTC/ ปี หรือ 26.30 BTC/วัน

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในช่วงปี 2565 จากแผนเพิ่มกำลังขุด อย่างไรก็ดี ธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงในแง่ของความผันผวนของราคา BTC และ Supplier ผู้จำหน่ายเครื่องขุดเหรียญซึ่งมีอยู่น้อยราย ผู้เล่นรายใหม่สามารถเข้าตลาดได้ง่าย การสวนกระแส ESG เนื่องจากใช้พลังงานสูง และการกำกับดูแลของก.ล.ต.และธปท. นอกจากนี้ สัดส่วน D/E ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.25x การออกหุ้นกู้ราว 3,300 ลบ. จะทำให้ D/E อาจเร่งขึ้นสู่ราว 5x แนะนำ "เก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง"

 

หุ้นมีข่าว

(+) STEC (Bloomberg Consensus 17.50 บาท) เตรียมพร้อมยื่นประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 6 สัญญา วันที่ 27 ธันวาคมนี้ หวังได้งานทุกสัญญา พร้อมลุยประมูลงานใหม่ต่อเนื่องในปีหน้ากว่า 2 แสนล้านบาท ดันงานในมือเพิ่ม จากสิ้นปีที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ส่วนปี 2565 คาดรายได้ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท แย้มงบไตรมาส 4/2564 รายได้ฟื้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HFT (Bloomberg Consensus 11.20 บาท) รับเต็มๆ 27 ชาติยุโรปร่วมใจลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก 15% เหลือ 5% ให้สินค้าลดโลกร้อน ดันตลาดโตต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารชี้ได้รับผลบวกช่วยดันออเดอร์ทะยานอีก เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20-30% รองรับ เตรียมขยายตลาดเพิ่มเติม ลั่นปีหน้ามาร์จิ้นดีกว่าปีนี้ หลังลดต้นทุนได้เพียบ เพิ่มราคาอีก 10% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JMT-KBANK (Bloomberg Consensus 65.00 , 166.00 บาท) บอร์ด บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์คฯ (JMT) เคาะร่วมทุนแบงก์กสิกรไทย (KBANK) ตั้ง 2 บริษัท “ติดตามหนี้” และ“บริหารหนี้เสีย” เผย JMT ถือหุ้นน้อยกว่า 50% และ KBANK ถือหุ้นมากกว่า 50% ทั้ง 2 แห่ง คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2565 ก่อนเตรียมร่วมทุนอีก 2 แบงก์ใหม่ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EP (Bloomberg Consensus - บาท) จ่อ COD โรงไฟฟ้าพลังลมในเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ ภายในไตรมาส 1/2565 หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติขายหุ้น "อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น" ให้กับ "ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี" 11,334.09 ล้านบาท เตรียมรับทรัพย์ภายในเดือนธ.ค.64 นี้ ช่วยหนุนผลงานไตรมาส 4/2564 โตกระฉูด (ที่มา ทันหุ้น)