JTS ทุ่มเงิน 3.3 พันล้าน ลุยธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์เต็มสูบ

JTS ทุ่มเงิน 3.3 พันล้าน ลุยธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์เต็มสูบ

บอร์ด JTS ไฟเขียว ทุ่มงบลงทุน 3.3 พันล้าน ลุยธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ คาดเดินเครื่องครึ่งหลังปี 65 พร้อมเสนอผู้ถือหุ้นออก-เสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 4 พันล้าน เพื่อใช้เป็นเงินลงทุน

นายดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ JTS แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2564 ในเรื่องที่สําคัญ ดังนี้

1. เห็นชอบให้นําเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทและ/หรือบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จํากัด (JasTel) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่กลุ่มบริษัทอยู่ในช่วงเริ่มลงทุน โดยก่อนหน้านี้ได้จัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์และเริ่มดําเนินการไปแล้วกว่า 300 เครื่อง

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มเติมสําหรับปี 2565 ในการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวนไม่เกิน 6,300 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบที่เกี่ยวข้องอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 3,300 ล้านบาท ตามรายละเอียดดังนี้

1.1 ลงทุนเพิ่มเติมตามแผนธุรกิจสําหรับปี 2565 โดยการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวน 1,800 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 741.60 ล้านบาท

ทั้งนี้ JasTel จะจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวน 1,800 เครื่องข้างต้นจาก บริษัท พรีเมียม แอสเซท จํากัด (Premium Asset) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) (JAS) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท

โดยในวันนี้ (21 ธ.ค.) JasTel ได้เข้าทําสัญญาจะซื้อจะขายเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวน 1,800 เครื่องข้างต้น กับ Premium Asset เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรายการซื้อขายตามสัญญาดังกล่าวและการชําระราคาจะเกิดขึ้นต่อเมื่อบริษัทได้รับอนุมัติให้เข้าทํารายการจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยถูกต้องครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้น

การจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จาก Premium Asset มีสาเหตุมาจากปัจจุบันเริ่มมีผู้ประกอบธุรกิจจํานวนมากให้ความสนใจ และเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองขุดบิทคอยน์ ส่งผลเครื่องขุดบิทคอยน์เริ่มขาดตลาด และผู้ผลิตใช้เวลาในการผลิตและส่งมอบเครื่องนานขึ้น

ในขณะที่ Premium Asset ได้จองซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จากผู้ผลิตในต่างประเทศจํานวน 1,800 เครื่องดังกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว การจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จาก Premium Asset จึงสอดคล้องกับแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัท อีกทั้ง Jastel ก็ได้รับข้อเสนอและเงื่อนไขทางการค้าในการซื้อขายเครื่องขุดบิทคอยน์ดังกล่าวที่สมเหตุสมผล

บริษัทคาดว่า JasTel จะสามารถซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จาก Premium Asset ภายในเดือน กุ.พ.2565 และรับมอบเครื่องขุดบิทคอยน์เพื่อดําเนินการได้ภายในช่วงเดือน ก.ค.2565 เป็นต้นไป

1.2 การลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตตามแผนธุรกิจสําหรับปี 2565 โดยการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวนไม่เกิน 4,500 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบที่เกี่ยวข้องอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 2,558.40 ล้านบาท

การจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์เพิ่มเติมในส่วนนี้ จะจัดซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ไม่เข้าข่ายเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท โดยคาดว่าจะเริ่มดําเนินการจัดซื้อในช่วงเดือน มี.ค.2565 เป็นต้นไป

2. เห็นชอบให้นําเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,000 ล้านบาท รวมถึงการจัดหาหลักประกันสําหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ข้างต้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

2.1 การออกและเสนอขายหุ้นกู้ทุกประเภทและทุกรูปแบบ (มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน) โดยบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท หรือในสกุลเงินอื่นในจํานวนที่เทียบเท่า ให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ ผู้ลงทุนประเภทสถาบันในประเทศ และ/หรือ ในต่างประเทศในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกัน

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะที่ออกและเสนอขายในแต่ละคราว เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์เพิ่มเติม และจ่ายชําระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน โดยมอบอํานาจให้กรรมการผู้จัดการของบริษัทเป็นผู้กําหนดรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้แต่ละครั้งภายใต้วงเงินนี้ ซึ่งจะเป็นไปตามรายละเอียดที่จะนําเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

2.2 การจัดหาหลักประกันสําหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ตามข้อ 2.1 ข้างต้น โดยบริษัทจะเข้าทําสัญญาเพื่อขอรับการสนับสนุนจาก JAS และ/หรือ บริษัทในกลุ่ม JAS ในการนําหุ้นสามัญในบริษัทที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ JAS และ/หรือ บริษัทในกลุ่ม JAS และ/หรือที่ดิน และ/หรืออาคารซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Premium Asset มาจํานําและ/หรือจํานองเพื่อเป็นหลักประกันสําหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทข้างต้น

ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่ JAS และ/หรือ Premium Asset และ/หรือบริษัทในกลุ่ม JAS จะนํามาให้เป็นหลักประกันจะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1.25 เท่า ของวงเงินรวมในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท (คิดเป็นมูลค่าหลักประกันรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 ล้านบาท) โดยบริษัทจะชําระค่าธรรมเนียมหลักประกันให้แก่ JAS และ/หรือ Premium Asset และ/หรือบริษัทในกลุ่ม JAS ในอัตราร้อยละ 1 ของมูลค่าหลักประกันตลอดอายุของหุ้นกู้

(ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทสามารถออกและเสนอขายหุ้นกู้ได้เต็มวงเงิน 4,000 ล้านบาท โดยมีอายุหุ้นกู้ 3 ปี และ
ได้รับการสนับสนุนหลักประกันเต็มมูลค่า (5,000 ล้านบาท) ในกรณีนี้ ค่าธรรมเนียมหลักประกันสูงสุดที่บริษัทจะต้องชําระจะคิดเป็นจํานวนเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 150 ล้านบาทตลอดอายุหุ้นกู้ 3 ปี ดังกล่าวซึ่งบริษัทจะใช้มูลค่าของค่าธรรมเนียมหลักประกันสูงสุดจํานวน 150 ล้านบาทนี้เป็นมูลค่ารายการในการคํานวณขนาดรายการเพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป)