พพ. ผนึก 7 มหาวิทยาลัย ออกแบบอาคารมาตรฐาน BEC ลดใช้พลังงาน30%

พพ. ผนึก 7 มหาวิทยาลัย ออกแบบอาคารมาตรฐาน BEC ลดใช้พลังงาน30%

พพ. ผนึก 7 มหาวิทยาลัยชั้นนำ มุ่งนำพลังงานทดแทนมาใช้และลดใช้พลังงาน 30% พร้อมสร้างบุคลากรและเป็นตัวแทน เดินหน้าเร่งตรวจประเมินอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ตามมาตรฐาน BEC ที่เตรียมบังคับใช้ไตรมาสแรกปี2565

นายเรืองเดช ปั่นด้วง รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ. ได้ลงนามความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา 7 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เพื่อบูรณาการเชื่อมโยงมาตรฐาน Building Energy Code (BEC) สู่การพัฒนาเป็นองค์ความรู้สู่สถาบันการศึกษา

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ในการออกแบบอาคารให้สอดรับมาตรฐาน BEC และเตรียมพร้อมเครือข่ายฝึกอบรมในฐานะตัวแทนของพพ. ด้านการตรวจประเมินอาคารตามมาตรฐาน BEC มุ่งสู่การสร้างผู้ตรวจประเมินค่าอนุรักษ์พลังงานในอาคาร เพื่อบรรลุเป้าหมายของแผน EEP 2018 ลดใช้พลังงานลง 30% ในปี2580 จะมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 20-25% ภายในปี2573 ตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี2050 สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ภายในหรือก่อนหน้าปี2065

อย่างไรก็ตาม พพ. ได้เตรียมความพร้อมในการขยายเครือข่ายความร่วมมือในด้านวิชาการให้เพิ่มมากขึ้น โดยวางเป้าหมายสร้างความร่วมมือให้ครอบคลุมมหาวิทยาลัยทั้งหมดที่มีความพร้อม เพื่อให้บุคคลากรของสถาบันการศึกษา และนิสิตนักศึกษาที่มีคุณสมบัติได้มีความพร้อมรองรับการปฏิบัติงานตามข้อกำหนดในการบังคับใช้มาตรฐาน BEC ซึ่งพพ. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี2552 เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรผู้ออกแบบอาคาร สถาปนิก วิศวกร เจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ทำหน้าที่อนุญาตก่อสร้าง รวมถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ให้มีความรู้ความเข้าใจในนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของภาครัฐ

สำหรับมาตรฐาน BEC คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณไตรมาสแรกในปี2565 ซึ่งหลังจากมีการบังคับใช้แล้ว พพ.ได้เตรียมแผนงานและกลไกการตรวจติดตามและประเมินผลการบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานในภาคอาคาร และบรรลุวัตถุประสงค์ได้ตามเป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2018) ที่กำหนดเป้าลดการใช้พลังงาน 30% ในปี2580

“ตามแผน EEP 2018 ได้วางมาตรการในการลดใช้พลังงานในทุกภาคส่วนที่สำคัญ ซึ่งมีการใช้พลังงานสูงได้แก่ ภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ภาคอาคารธุรกิจ และภาคบ้านอยู่อาศัย โดยใช้กลยุทธ์และมาตรการดำเนินงานแบบผสมผสาน ทั้งมาตรการบังคับใช้ด้วยกฎหมาย และมาตรการจูงใจสนับสนุน เช่น กองทุนเพื่อการส่งเสริมและอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น โดย BEC จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะมีส่วนทำให้เกิดการประหยัดพลังงานในอาคารได้เป็นอย่างดี”