"พลังงาน" อัดงบ 430 ล้าน หนุนผู้ประกอบการลดปล่อยก๊าซคาร์บอน

"พลังงาน" อัดงบ 430 ล้าน หนุนผู้ประกอบการลดปล่อยก๊าซคาร์บอน

พลังงาน อัดงบกว่า 430 ล้านบาท หนุนโรงงาน วิสาหกิจชุมชนเกษตรกร SME สตาร์ทอัพ ขนส่ง มั่นใจเกิดเงินลงทุนหมุนเวียนรวม 2,300 ล้านบาท ผลประหยัด 764 ล้านบาทต่อปี ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 1 แสนตันต่อปี เสริมแกร่งไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ. อยู่ระหว่างการเร่งขับเคลื่อนมาตรการเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และขนส่ง ผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการสนับสนุนการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยน ปรับปรุง เครื่องจักร วัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร โดยมีวงเงินสนับสนุนรวมกว่า 430 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการภาคเกษตรกรรม ธุรกิจ Startup และภาคขนส่ง ได้เกิดลงทุนปรับเปลี่ยน ปรับปรุง เครื่องจักรวัสดุ อุปกรณ์เพื่อการประหยัดพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม และพร้อมผลักดันให้หน่วยงานที่ร่วมโครงการ เป็นต้นแบบมาตรการอนุรักษ์พลังงานที่ประสบผลสำเร็จ เพื่อขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ วงเงินสนับสนุนดังกล่าว พพ. จะสนับสนุนเงินลงทุนแบ่งเป็น ให้แก่กลุ่มโรงงาน อาคารควบคุม 20% กลุ่มผู้ประกอบการเกษตรกร กลุ่มธุรกิจ Startup จะสนับสนุนเงินลงทุน 30% โดยจะสนับสนุนวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาทต่อราย และสนับสนุนเงินในภาคขนส่ง 30% วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท

\"พลังงาน\" อัดงบ 430 ล้าน หนุนผู้ประกอบการลดปล่อยก๊าซคาร์บอน

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งนอกจากผลักดันให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานที่เป็นรูปธรรมแล้ว จะช่วยกระตุ้นตลาดการซื้อขายเครื่องจักร อุปกรณ์ วัสดุเพื่อการประหยัดพลังงาน สร้างเงินลงทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2,300 ล้านบาท เกิดผลประหยัดพลังงานในภาพรวมสูงถึง 764 ล้านบาท/ปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 100,000 ตันคาร์บอนต่อปี และเป็นก้าวสำคัญผลักดันให้ประเทศไทยพร้อมก้าวไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคตอย่างยั่งยืน
 

สำหรับ ตัวอย่างมาตรการส่งเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ที่ผ่านมา เช่น มาตรการปรับเปลี่ยนเครื่องทำความเย็น (Chiller) จะช่วยให้เกิดผลประหยัด 35% มาตรการปรับเปลี่ยนปั๊มลม เกิดผลประหยัด 45% มาตรการเปลี่ยนมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง เกิดผลประหยัด 25% และในส่วนของภาคขนส่ง มาตรการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ ประหยัด 60% มาตรการเปลี่ยนตู้บรรทุก ประหยัด 40% เป็นต้น โดยมีระยะคืนทุนเฉลี่ย 3ปี ทั้งนี้ หน่วยงาน หรือผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการฯ พพ. ได้เปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 21 มกราคม 2565

\"พลังงาน\" อัดงบ 430 ล้าน หนุนผู้ประกอบการลดปล่อยก๊าซคาร์บอน
นอกจากนี้ ในส่วนมาตรการส่งเสริมด้านการเงินเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ที่ผ่านมา พพ. ได้มีความร่วมมือกับสถาบันเงินชั้นนำ ได้แก่ การลงนาม MOU ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ซึ่งจะร่วมกันให้ความรู้ผู้ประกอบการ SME โดย พพ. จะสนับสนุนความรู้ด้านมาตรการอนุรักษ์พลังงาน-พลังงานทดแทน และ SCB จะให้ข้อมูลการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และความเสี่ยงจากการลงทุน เป็นต้น การลงนาม MOU ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะร่วมกันสนับสนุนให้ เกษตรกร บุคคลทั่วไป ธุรกิจชุมชน ให้เกิดการลงทุนโครงการใช้พลังงานทดแทน พลังงานสะอาด และการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อลดต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิต หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการลงนาม MOU ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SMED Bank เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างองค์ความรู้ด้านอนุรักษ์พลังงาน และการใช้พลังงานทดแทนต่อไป