โควิดดันสมาร์ทโฮมบูมจาร์ตันผุดแอพฯเชื่อมต่อสินค้าหวังเป็น“ซุปเปอร์แอพ”

โควิดดันสมาร์ทโฮมบูมจาร์ตันผุดแอพฯเชื่อมต่อสินค้าหวังเป็น“ซุปเปอร์แอพ”

จาร์ตัน สบช่องโควิดหนุนตลาดสมาร์ทโฮมมูลค่า 4 พันล้านบูมเปิดตัว“จาร์ตัน โฮม ”แอพฯสัญชาติไทยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอโอที ครอบคลุม 100 แบรนด์ หวังดัน“ซุปเปอร์แอพ”สร้างรายได้ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ปี68

นายธีธัช จึงกานต์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จาร์ตัน กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านการผลิต ติดตั้งและส่งออก ระบบบ้านและอาคารครบวงจร เปิดเผยว่า ตลาดสมาร์ทโฮม ประเทศไทยช่วง 2ปีที่ผ่านมาหลังจากกเกิดการระบาดโควิด-19 ทำให้คนใช้เวลาอยู่บ้าน จึงมีส่วนผลักดันให้ตลาดเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยสมาร์ทโฮม  ในประเทศ มีมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 2.5 ล้านชิ้น

จากแนวโน้มดังกล่าว จาร์ตัน กรุ๊ป จึงได้จัดตั้ง บริษัท จาร์ตัน เทคโนโลยี จำกัด ขึ้นมาเพื่อพัฒนา“จาร์ตัน โฮม ”ให้เป็นแอปพลิเคชันกลาง  ที่สามารถควบคุม อุปกรณ์ สมาร์ทโฮมทุกแบรนด์ได้บนแอปพลิเคชันเดียว และพัฒนาจนสามารถใช้งานกับสินค้า ทุกแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศได้ทั้งหมด  ถือเป็น สมาร์ทโฮม  “ซุปเปอร์แอพ” ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านและอาคารได้อย่างครบวงจร สามารถใช้งานได้ทั้ง Mobile Application และ Web Application (www.JARTONHome.com) รองรับการสั่งงานผ่านคำสั่งเสียงทั้ง Google Assistant, Apple Siri, Amazon Alexa และสั่งงานผ่าน Apple Watch,  Apple Home Kit, Samsung SmartThings ได้อีกด้วย 

ทั้งนี้ คาดว่า หลังจากเปิดตัว JARTON Home ที่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรกว่า 100 แบรนด์ และพันธมิตรระดับโลกอย่าง Apple HomeKit และ Samsung SmartThings เข้ามาร่วมกันทำการตลาด มั่นใจว่าตลาดสมาร์โฮม จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น 3-5 เท่าภายใน 2 ปี อย่างแน่นอน 
 

โดยได้รับการสนับสนุนจาก Depa (ดีป้า) หรือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการผลักดันให้เกิดความร่วมมือกับพันธมิตรจากทุกวงการ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยสามารถเข้าถึงระบบ IoT หรือ สมาร์ทโฮมได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด เป็นการลดช่องว่างทางเทคโนโลยี (Digital Divide) และขยายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริงและเป็นรูปธรรม  

ในด้านทิศทางการดำเนินธุรกิจ จาร์ตัน กรุ๊ป ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้ง JARTON Holdings เป็นบริษัทแม่ ถือหุ้นในบริษัทลูก และ เตรียมหาผู้ร่วมทุนและ Strategic Partner ในแต่ละธุรกิจภายในเครือ ซึ่งจะแยกกันตามประเภทธุรกิจ ได้แก่ 

JARTON Industry ธุรกิจผลิตและวิจัยสินค้าระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร เช่น เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด กล้องวงจรปิด เครื่อง X-Ray
JARTON Group ธุรกิจ Trading สินค้าระบบบ้านและอาคารครบวงจร เช่น ระบบ Smart Home 
JARTON Technology ธุรกิจ Technology พัฒนาและบริหารระบบ Software และ Application ทั้งหมด เช่น JARTON Home / JARTON Lock / JARTON CCTV
Nexitt ธุรกิจรับติดตั้งงานระบบอาคารครบวงจร แบบ Turnkey  
JARTON Network ธุรกิจเครือข่ายด้านสินค้าเทคโนโลยีและสินค้าสุขภาพ
Life Elevated ธุรกิจเพื่อสังคมด้านการฝึกอบรมและพัฒนาตนเอง

สำหรับ ผลการดำเนินงานของกลุ่ม จาร์ตัน โฮลดิงส์ ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและการระบาดโควิด -19  ทำให้ต้องปรับลดลง 30% จากที่ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่  1,000 ล้านบาท โดยสินค้าหลักยังคงเป็น ระบบบ้านและอาคารอัจฉริยะ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบ Smart Home, ระบบตรวจจับความปลอดภัยแบบอุโมงค์เดินผ่าน, ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ โดยมีสัดส่วน 25% -ของยอดขายทั้งกลุ่ม

ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับโครงสร้าง จาร์ตัน กรุ๊ป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 9-12 เดือน ที่จะสรรหาผู้ร่วมทุนและ Strategic Partner จากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่ง จากนั้น จะนำบริษัทแม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  ภายใน ปี 2568