ส.อ.ท.ค้าน ‘ล็อกดาวน์’ สกัดสายพันธุ์โอมิครอน

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเชื่อโอมิครอนไม่รุนแรงเท่าเดลต้า ย้ำรัฐบาลติดตามเฝ้าระวัง ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ขอทุกฝ่ายไม่ตื่นตระหนกจนถึงขั้นต้องกลับไปปิดประเทศอีกครั้งเพราะจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยที่กำลังจะฟื้นตัว

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สุพันธุ์ มงคลสุธี ระบุ ยอมรับว่าภาคเอกชนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โอมิครอนในช่วงแรกที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะระบาดรวดเร็วและรุนแรงมากน้อยแค่ไหน แต่ขณะนี้ข้อมูลจากประเทศเริ่มต้นการระบาดอย่างแอฟริกาใต้ พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรงเท่าสายพันธุ์เดลต้า ยังไม่มีการเสียชีวิตจากสายพันธุ์นี้ และที่สำคัญทั่วโลกรวมถึงไทยฉีดวัคซีนไปจำนวนมากแล้ว เชื่อว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี รัฐบาลได้ติดตามเฝ้าระวัง ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ ดังนั้น ไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายเกิดความตื่นตระหนกจนถึงขั้นต้องกลับไปปิดประเทศอีกครั้งเพราะจะยิ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยที่กำลังจะฟื้นตัว

ส.อ.ท.จี้รัฐเร่งฉีดวัคซีนสกัดโอมิครอน

สำหรับข้อเสนอแนะที่มีต่อรัฐบาลขอให้เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้เร็วที่สุด รวมถึงการฉีดเข็ม 3 (Booster) ที่มี ความสามารถในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ตลอดจนเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดระลอกใหม่ เร่งจัดหาและนำเข้าแรงงานต่างด้าวภายใต้ MOU เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ขอให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือ และบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยพยุงราคาพลังงาน ตรึงราคาค่าไฟฟ้า และลดค่าสาธารณูปโภค รวมทั้งเร่งออกมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรการควบคุมโรค ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ

สำหรับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ระดับ 85.4 ปรับตัวเพิ่มเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง ขณะที่การฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ส่งผลให้ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมีการปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวส์ ตลอดจนอนุญาตให้สถานที่หรือกิจการบางประเภทสามารถเปิดดำเนินการได้