ยูทีเอทุ่มอีก 2 แสนล้าน เนรมิตร “เมืองการบิน”

ยูทีเอทุ่มอีก 2 แสนล้าน  เนรมิตร “เมืองการบิน”

ยูทีเอเร่งหาพันธมิตรไทย - เทศ ดึงลงทุนเมืองการบินอู่ตะเภา 2 แสนล้านบาท ปั้นเป็นศูนย์กลางการบินและไลฟ์สไตล์ซิตี้ เผยกระแสตอบรับดี คาดตอกเสาเข็ม- เปิดบริการปี 2568

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยระบุว่า ปัจจุบันบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA เอกชนผู้รับสัมปทานพัฒนาโครงการดังกล่าว ได้ส่งรายงานแผนแม่บท (มาสเตอร์แพลน) ไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ตรวจสอบและอนุมัติแล้ว โดยขณะนี้ทาง UTA อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดอาคารผู้โดยสาร

ขณะเดียวกันทราบว่า UTA ยังอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการเมืองการบินที่จะพัฒนาในพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งเป็นการลงทุนเองของทางภาคเอกชน เบื้องต้นจะมีการลงทุนเพิ่มอีกราว 2 แสนล้านบาท ถือเป็นการลงุทนเพิ่มนอกเหนือจากวงเงินลงทุนโครงการที่ สกพอ.ประเมินไว้ เนื่องจากเอกชนกำหนดคอนเซ็ปต์พัฒนาเมืองการบินเอง และพบว่าต้องลงทุนเพิ่ม

“2 แสนล้านบาทที่จะมีการลงทุนเพิ่มเติมนี้ ในส่วนของเมืองการบิน ซึ่งทางภาคเอกชนเขาวางคอนเซ็ปต์เอง เพราะในขณะที่ สกพอ.ประเมินวงเงินลงทุนช่วงแรก เป็นการประเมินวงเงินลงทุนจากการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ส่วนคอนเซ็ปต์และมูลค่าการลงทุนในเมืองการบิน ทางเอกชนเป็นผู้ประเมินและต้องลงทุนเอง”

อย่างไรก็ดี โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก สกพอ.ประเมินว่าจะก่อให้เกิดผลตอบแทนแก่ภาครัฐ (PV) กว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งประเมินว่าจะสามารถออกเอกสารอนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) ให้เอกชนเริ่มก่อสร้างได้ในปลายไตรมาส 1 ของปี 2565 ถือเป็นการเริ่มนับสัญญาสัมปทาน 50 ปี แบ่งเป็น ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี และเริ่มบริหารกิจการ 47 ปี

แหล่งข่าวจากบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA กล่าวว่า ขณะนี้ UTA อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดในโครงการเมืองการบินอู่ตะเภา ซึ่งประเมินว่ามูลค่าการลงทุนโครงการนี้จะอยู่ที่ราว 2 แสนล้านบาท โดยเป็นการลงทุนเพิ่มเติมจากที่ UTA ยื่นประมูลไว้ เพราะการประเมินมูลค่าลงทุนก่อนหน้านี้เป็นการประเมินเฉพาะส่วนของการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและการขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานอู่ตะเภาเท่านั้น

สำหรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในเมืองการบินอู่ตะเภา เป็นการลงทุนของเอกชน 100% พัฒนาพื้นที่ อาคาร สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้เป็นไลฟ์สไตล์ซิตี้ ในคอนเซ็ปต์ Entertainment and Art ไม่ได้เป็นเพียงเมืองอุตสาหกรรม หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์รองรับตึกสูง แต่จะเป็นพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานครบถ้วน โรงแรม ร้านอาหาร ศูนย์การค้า สิ่งอำนวยความสะดวก และสมาร์ทซิตี้ รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวเพื่อผ่อนคลาย อีกทั้งจะเป็น “เมืองแห่งการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด” (Cashless) เป็นเมืองดิจิทัล ซึ่งเฟสแรกจะทยอยพัฒนาบนพื้นที่ 1 พันไร่

“การลงทุนในเมืองการบินใน 2 แสนล้านบาท มีบางส่วนจะกู้มาลงทุนบ้าง และบางส่วนจะหาคนร่วมทุนบ้าง ซึ่งเบื้องต้นได้มีการเจรจาร่วมพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติ มีคนสนใจร่วมลงทุนจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้เราก็อยากให้เกิดขึ้นโดยเร็ว อยากก่อสร้างและเปิดให้พร้อมกับอาคาคผู้โดยสารในปี 2568 เพราะสัมปทานบริหารมีเวลากำหนดอยู่ ดังนั้นหากเปิดบริการได้เร็วก็จะเป็นเรื่องดี”

ทั้งนี้ การลงทุนท่าอากาศยานอู่ตะเภา UTA ได้กำหนดแผนงานออกเป็น ในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า ลงทุนเฟสแรกต้องรองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน คาดว่าใช้งบประมาณราว 5 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายการลงทุนต่อเนื่องเพื่อรองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคน ด้วยงบประมาณราว 2 แสนล้านบาท ตลอดระยะสัมปทาน 50 ปี