อ่อนตัว เก็งกำไร LEO SCGP ADVANC (30 พ.ย. 64)

อ่อนตัว เก็งกำไร LEO SCGP ADVANC (30 พ.ย. 64)

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1601 / 1607 จุด แนวรับ 1580 / 1570 จุด แนะนำ เก็งกำไร LEO SCGP ADVANC ทางเทคนิคเกิดสัญญาณขาลง (รูปแบบ Triple Top และหลุดแนวรับ Neckline ที่ 1593 จุด

ทำให้มีแนวโน้มลงต่อ โดยมีแนวรับลุ้นรีบาวด์ที่ 1580 / 1570 จุด เรา แนะนำใช้แนวรับดังกล่าวเป็นจุดซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัด หากมีการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน เช่น กลุ่ม Domestic Play

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ
 

      +/-MSCI มีผลต่อราคาปิดวันนี้: +TIDLOR BEC TIPH (เพิ่มคำนวณ) –TKN BEM
(ถูกถอด) และ CPALL PTT SCC AOT BDMS ADVANC PTTEP PTTGC DTAC GULF
คาดมีแรงขายเฉลี่ยรายตัวระหว่าง USD6.4mn ถึง -USD2mn จากน้ำหนักใน MSCI
Asia ลดลง
       เก็งกำไร: หุ้นที่ปรับตัวลงมาถึงแนวรับและเริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวหรือมี
โมเมนตัมเชิงบวก จากวันก่อนหน้า หุ้นแนะนำ LEO SCGP SABINA ADVANC SMD
SIS
       ทยอยสะสม: หุ้น Big Cap ที่ปรับตัวลงแรงและมีโอกาสฟิ้นตัวเป็นกลุ่มแรก เช่น กลุ่ม
ธนาคาร กลุ่มพาณิชย์ โดยใช้แนวรับดัชนีฯ ที่ 1580 จุด เป็นจุดตัดสินใจร่วมกับแนวรับ
หุ้นรายตัว หุ้นแนะนำ KBANK SCB TCAP RBF HMPRO DOHOME
*สามารถติดตามหุ้นที่น่าสนใจเพิ่มตามจากรายงาน BIG TACTICAL PICKS และ SMALL
TOP PICKS

 

ปัจจัยบวก
 

      +ไทย: สศค. เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค. 2021 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจาก
เดือนก่อนหน้า หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การท่องเที่ยว
ภายในประเทศฟื้นตัว เป็นบวกต่อการบริโภคภายในประเทศ
     +Interest Rate Risks: ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง
สหรัฐฯ (เฟด) ต่อสภาครองเกรส ในคืนวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. นี้ มีแนวโน้มที่จะคง
มาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) เนื่องด้วยความเสี่ยงของโอไมครอน
 

 

ปัจจัยลบ
      - Market Risks: ตลาดจะมีความผันผวน 1-2 สัปดำห์ เพื่อรอความชัดเจนการวิเคราะห์
จากหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ก่อนว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมีความรุนแรงเพียงใด

ประเด็นที่ต้องติดตาม
       - Opportunity Day: LOXLEY LEO NCH CNT CHEWA AH BCH
       - NBS Manufacturing PMI เดือน พ.ย.ของประเทศจีน โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้น
เล็กน้อยจาก 49.2 เป็น 49.6
       - ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ต.ค. ของไทย โดย Consensus คาดขาดดุล -1,700 พันล้าน
ดอลลาร์สหรัฐฯ (Vs เดือน ก.ย. –1,346 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
       - ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ของยูโรโซน โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้น +4.5% เพิ่มขึ้น
จาก +4.1% ในเดือน ต.ค.
       - ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อสภาครองเกรส
       - MSCI ทบทวนรายไตรมาสล่าสุด จะมีผลต่อราคาปิดวันนี้

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- หุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2: ดัชนีฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปิดที่ 1589.69 จุด
-20.92 จุด วอลุ่มซื้อขำย 1.15 แสนล้านบาท นำลงโดยกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ -3.73%
กลุ่มธนาคาร -2.47% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -1.80% กลุ่มพาณิชย์ -1.16%
หุ้นบวก >4% STGT DELTA ABM PHOL WIN RCL CPW MGT BBIK OTO EKH SMD
WINMED หุ้นลบ >4% KBANK AOT SVOA PLANB JWD FORTH XPG M EFORL
ERW ITD SIMAT NCAP

 

 

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปรีบาวนด์: DJIA +0.68% S&P500 +1.32% NASDAQ +1.88% นักลงทุนมีความหวังว่าไวรัสกลายพันธุ์ Omicron จะไม่นำมาซึ่งการล็อกดาวน ์ หลังมีคำรับประกันมาจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่วนตลาดหุ้นยุโรป DAX +0.16% CAC40 +0.54% FTSE +0.94% หลังตลาดคาดว่าธนาคารกลางทั้ง BOE และ ECB ยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน ส่อเค้ารุนแรง

+/- น้ำมันรีบาวนด์ ส่วนทองคำปิดลบเล็กน้อย: WTI +USD1.72 ปิดที่ USD69.87/บาร์เรล Brent +51 เซนต์ ปิด USD73.23/บาร์เรล หลังจากมีความเป็นไปได้ที่OPEC+ อาจมีมติชะลอการเพิ่มอุปทานพลังงานในการประชุมวันที่ 2 ธ.ค. ส่วนทองคำปิด –USD0.90 ปิดที่ USD1,787.20/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นและน้ำมันรีบาวนด์

 

+/-ประเด็นสำคัญ

- COVID-19: WHO ได้ออกคำเตือนว่าเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน มีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยสร้างความเสี่ยง "สูงอย่างยิ่ง" ต่อประเทศทั่วโลก และการที่มี COVID-19 แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นก็อาจนำไปสู่ "ผลลัพธ์อันเลวร้าย" ในบางพื้นที่

- Japan: รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศห้ามชาวต่างชาติจากทุกประเทศทั่วโลกเดินทางเข้าญี่ปุ่น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน โดยนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 30 พ.ย. เป็นต้นไป

+/- Thailand: สภาพัฒน์เผยช่วงสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนของมาตรการการออกวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว (Long-term Resident Visa) เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าพำนักระยะยาวและมีส่วนช่วยผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวด้วย

+/- USA: FDA จะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย. เพื่อหารือกันว่าจะให้การอนุมัติสำหรับการใช้ยาโมลนูพิรำเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ในการรักษา COVID-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: AH TISCO SMT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: LEO SCGP ADVANC

Derivatives: แนะถือสถานะ Short S50Z21 ต่อ รอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)