RATCH คงเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้ง RE ไว้ที่ 25%

RATCH คงเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้ง RE ไว้ที่ 25%

ข้อมูลโดยรวมที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์อยู่ในเชิงกลาง ๆ งบลงทุนของ RATCH ในช่วงปี 2564-68 แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า 80% และอีก 20% จะเป็นธุรกิจด้านความยั่งยืน

อย่างเช่น Innopower Company Limited (ร่วมมือกับกลุ่ม กฟผ. (กฟผ., RATCH และ EGCO), ธุรกิจขนส่ง (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีชมพูและเหลือง), โครงการมอเตอร์เวย์ ฯลฯ โดยในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าผู้บริหารตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งจากเดิม 9.2GWe (รวมโครงการในอนาคตที่อยู่ใน pipeline 2.1MWe และ 3.7GWe RATCHGEN (PPA จะหมดอายุในปี 2568) เป็น 10GWe (ไม่รวม RATCHGEN ที่จะหมดอายุ) ภายในปี 2568 แบ่งเป็น i) สัดส่วนของพลังงานหมุนเวียน 25% ของพอร์ต (จาก 12.5% ในปี 2564) ii) สัดส่วนของพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (Greener Energy) จากโรงไฟฟ้าก๊าซ และนิวเคลียร์ลดลงเหลือ 55% (จาก 67.7% ในปี 2564) และ iii) สัดส่วนของพลังงานจากโรงไฟฟ้าถ่านหินทรงตัวอยู่ที่ 20% (จาก 20% ในปี 2564) นอกจากนี้ ผู้บริหารยังตั้งเป้าจะเพิ่ม Total capitalization เป็น 2 แสนล้านบาทภายในปี 2568 จาก 1.27 แสนล้านบาทเมื่อสิ้นงวด 3Q64

 

ซื้อหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Asahan-1 เป็น 47.89%

RATCH เข้าซื้อหุ้นใน Fareast Renewable Development Pte, Ltd. (FRD) เพิ่มอีก 40% เป็น 90% เพื่อเข้าร่วมในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Asahan-1 กำลังการผลิต 180MW ซึ่ง FRD ถือหุ้น 53.21% Asahan-1 ดังนั้น จึงเท่ากับว่า RATCH ถือหุ้น 47.89% ใน Asahan-1 (หรือ 86.2Mwe) ทั้งนี้ จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดมีจำนวน 13.54 ล้านหุ้น คิดเป็นต้นทุนการลงทุน 54.31 ล้านดอลลาร์ฯ (1.8 พันล้านบาท) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2564F และ 2565F ขึ้นอีก 1.2% และ 2.1% ตามลำดับเราปรับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ Asahan-1 จากเดิม 26.61% เป็น 47.89% ทำให้ประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2564F ของเราเพิ่มขึ้นจากเดิม 1.2% และปี 2565F เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.1%

 

 

 

 

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 เป็น 57 บาท (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.6%) จากเดิมที่ 59.75 บาท จากการใส่มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ Asahan-1 ที่บริษัทเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 47.89% (+1.25 บาท/หุ้น) แต่หัก discount ที่ 25% จากมูลค่าของโครงการ Paiton เพื่อสะท้อนถึงประเด็นการลงทุนในหุ้น ESG ที่ส่งผลต่อการประเมินมูลค่าหุ้นระยะยาวของโรงไฟฟ้าถ่านหิน (-4.00 บาท/หุ้น) เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ RATCH ใน 4Q64 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสากลับมาเปิดดำเนินการเต็มที่หลังจากที่มีปิดซ่อมบำรุง Unit 1 และ 3 เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น YoY ในปี 2565F จากกำลังการผลิตใหม่ 296MW ของโรงไฟฟ้าก๊าซ Riau และกำลังการผลิตใหม่ 931Mwe จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน Paiton ในอินโดนีเซีย

 

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า, และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่