‘จุรินทร์’ ขอโอมานนำเข้าข้าว-ยางพารา

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  พร้อมด้วยคณะให้การต้อนรับ นายอิสซา อับดุลเลาะฮ์ ญาบิร อัลอาลาวี (H.E.Mr.Issa Abdullah Jaber Al-Alawi) เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทย ขอเข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาศรับหน้าที่ และหารือประเด็นการส่งออกข้าวไทย และสินค้าฮาลาล

สำหรับประเด็นหารือที่เห็นตรงกัน คือ จะช่วยกันดำเนินการในเรื่องของการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องการค้าการลงทุน โดยเร่งรัดการให้การรับรองตราฮาลาลของประเทศไทย  เพราะหากโอมานให้การรับรอง จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ได้รับความเชื่อถือจากประชากรโอมานและกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมากขึ้น เพราะว่าโอมานจะกลายเป็นศูนย์กระจายสินค้าฮาลาลด้วย

นอกจากนี้ ยังเห็นตรงกันในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยจะได้มีการช่วยกันเร่งรัด MOU ในเรื่องของการลงทุน ซึ่งยังค้างคาอยู่ โดนตนรับปากว่าจะช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ ซึ่งไทยได้เสนอกับทูตโอมานว่า อยากเห็นการทำ MOU ระหว่างการยางแห่งประเทศไทยกับโอมานเพื่อสนับสนุนให้มีการนำยางพาราของไทยไปทำถนนในโอมานและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพราะถนนยางพาราสามารถทนต่ออากาศร้อนได้สูงซึ่ง

ขณะนี้ได้มีการดำเนินการมีความคืบหน้าไปบ้างแล้วเพียงแต่ว่าติดขัดในช่วงโควิด จึงขอให้ท่านทูตช่วยสนับสนุนให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นโดยเร็ว พร้อมทั้งขอให้โอมานช่วยนำเข้าสินค้าไทยไปยังโอมานมากขึ้น เช่นข้าวคุณภาพสูง/ ยางพารา / เครื่องปรับอากาศ / ตู้แช่อาหารกระป๋อง / และผลไม้ 

ขณะที่ทูตโอมาน ได้แจ้งให้ทราบและมีข้อเสนอแนะจากที่เห็นตรงกันสามประเด็นแรก คือการที่อยากเห็นประเทศไทยไปเปิดตลาดแสดงสินค้าหรือตลาดในการที่จะจำหน่ายสินค้าของไทยในโอมานเหมือนกับที่ไปเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่บาห์เรน ซึ่งตนเห็นด้วย

สำหรับประเทศโอมานมีประชากรประมาณ 5,000,000 คน เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการทำหน้าที่เป็น Traderในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจสำหรับไทยโอมานก็จะเป็นประตูสำหรับการส่งออกสินค้าไทยไปสู่ตลาดอื่นๆในตะวันออกกลางได้ และโอมานเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของไทยในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยังเป็นอันดับที่ 41 ของโลก โดยในปี 2563 โอมานและไทยมูลค่าการค้า ระหว่างกัน 29,260 ล้านบาท ซึ่งไทยส่งออกไปโอมาน 11,000 ล้านบาท ถือว่ายังขาดดุลอยู่เพราะว่าไทยนำเข้าน้ำมันจากโอมานมาก