KTC ผนึกแบงก์กรุงไทย จ่ออัพเป้าสินเชื่อปี65ทะลุแสนล้าน

KTC ผนึกแบงก์กรุงไทย จ่ออัพเป้าสินเชื่อปี65ทะลุแสนล้าน

เคทีซี เผย ปี 65  กำไรเกิน 6 พันล้าน นิวไฮ เหตุ เตรียมผนึก“แบงก์กรุงไทย” ลุยขยายสินเชื่อคุณภาพ ดันพอร์ตเกิน "แสนล้าน" จากเดิม 9.5 หมื่นล้าน  ส่วนปี 64 คาดกำไรกระทบจากตั้งสำรอง กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง ยัน ่ไม่กระทบจ่ายปันผล 

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้และกำไรปี 2565 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ)อีกครั้ง ด้วยกลยุทธ์ผสานความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย (KTB)ในหลากหลายมิติมากขึ้น มุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อให้เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเน้นการรักษาคุณภาพสินเชื่อและบริหารค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นบริษัทมีโอกาสปรับเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อคงค้างในปี 2565 ทะลุ 100,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในวิสัยที่ทำได้ จากเดิมตั้งไว้ที่ 95,000 ล้านบาท  ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างหารือกับธนาคารกรุงไทยที่จะร่วมมือและกำหนดเป้าให้ชัดเจน โดยอีก 3 เดือนข้างหน้า บริษัทจะประกาศเป้าหมายโดยรวมได้   

ส่วนกำไรในปี 2565 คาดว่าไม่ควรต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท แต่กำไรในปีนี้อาจถูกกระทบจากการตั้งสำรองที่เกิดขึ้นครั้งเดียวของ บริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง หรือ KTBL  คาดว่าจะชำระราคาส่วนที่เหลือภายหลังการตรวจสอบตามเงื่อนไขเสร็จสิ้นภายในเดือนพ.ย.2564 โดยมูลค่ารวมอาจมีการปรับราคาซื้อขายหุ้นต่ำลงหรือสูงขึ้นตามเงื่อนไขการชำระราคา โดยจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 29-30 พ.ย. นี้

แต่ยืนยันว่า จะเห็นผลกระทบจากรายการพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้นและจะไม่กระทบกับการจ่ายเงินปันผลอย่างแน่นอน เพราะการจ่ายเงินปันผลจะจ่ายจากงบเดี่ยวของเคทีซีซึ่งไม่กระทบจากการตั้งสำรองดังกล่าว

 

“มองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หลังเเริ่มเปิดประเทศตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564 ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวในปี 2565 เชื่อว่าการใช้จ่ายจะกลับมาเพิ่มขึ้น”

ส่วนการรวมหนี้ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายระเฑียร มองว่า เป็นผลดีกับบริษัท เพราะหนี้ส่วนใหญ่ที่เข้ามาตรการจะเป็นหนี้อยู่ในเกณฑ์มีปัญหา หากรวมหนี้ บริษัทจะได้รับการชำระหนี้ครบ จึงเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย

และปกติหากลูกค้าของเคทีซีที่มีการผิดนัดชำระหนี้ 6 เดือน จะไรท์ออฟออกจากพอร์ตอยู่แล้ว ส่วนที่ยังไม่ถึงหรือจ่ายไม่สม่ำเสมอนั้น ยังดูแลอยู่ ซึ่งเราก็คงจะไม่ได้นำส่วนของสถาบันการเงินอื่นมารวม เพราะเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน แต่หากสถาบันการเงินอื่นจะนำหนี้เคทีซีไปรวมก็ไม่มีปัญหาถ้าจะทำให้สถานะของหนี้โดยรวมดีขึ้น

 สำหรับในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตกลับมาเท่ากับปีฐานที่ 2562มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เติบโต 10% และสินเชื่อบุคคล เติบโต 7%ส่วนการปล่อยสินเชื่อพี่เบิ้ม2,500 ล้านบาท สินเชื่อรถยนต์ (Car loan) 1,500 ล้านบาท และสินเชื่อ KTBL 1,000 ล้านบาท ทางด้านสินเชื่อด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ สำหรับปัจจุบัน NPL อยู่ที่ 3.8% ณ ไตรมาส3 ปี2564 และเราเชื่อมั่นใน Business Model ของเราที่สามารถทำรายได้ได้ดี