นายกฯเร่งเปิดประเทศเพิ่มรับต่างชาติ

นายกฯปลื้มผลตอบรับเปิดประเทศ 1 พ.ย. ทำเม็ดเงินสะพัดเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ช่วง 1 เดือน 5 พันล้าน งานลอยกระทงยอดจองที่พักเต็ม 90% ลุยเปิดประเทศเฟส 2 อีก 16 จังหวัด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ธนกร วังบุญคงชนะ  ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลื้มผลตอบรับหลังมาตรการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 ในพื้นที่ 17 จังหวัดสีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาวไทย

ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เดือน ต.ค. มีประชาชนมั่นใจออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ทำให้มีเม็ดเงินภายในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เข้าสู่ระบบภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการแล้วกว่า 5,186 ล้านบาท ยอดรวมการลงทะเบียน 909,937 คน ยอดการใช้สิทธิจองโรงแรมที่พัก 4,113 แห่ง คิดเป็น 1,296,872 ห้อง โดยมีมูลค่าการใช้จ่ายโรงแรม/ที่พัก รวม 4,753 ล้านบาท และยอดการใช้จ่ายคูปองส่วนลดในร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ร้านสปา/นวด และอื่น ๆ รวม 435 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ย. 64) รวมทั้งในช่วงเทศกาลลอยกระทง อัตราการเข้าพักในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ในหลายพื้นที่ขยับเพิ่มขึ้นกว่า 50% โดยเฉพาะในบางจังหวัดใกล้กรุงเทพมหานคร มีอัตราการเข้าพักในช่วงวันหยุดเพิ่มขึ้นถึง 80-90%

สำหรับการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยของนักท่องเท่ียวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1-21 พ.ย. 2564 จำนวน 85,608 คน โดยเดินทางมาจากประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย และฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. ยังเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศเพิ่มเติมในจังหวัดที่พร้อม ตามแผนการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย (Safety Entry) โดยเฟส 1 หรือตั้งแต่วันที่ 1–30 พ.ย. 2564 ประสบความสำเร็จในการเปิดพื้นที่นำร่องเที่ยว 17 แล้ว ต่อไปในเฟส 2 ช่วงเวลาวันที่ 1–31 ธ.ค. 2564 เตรียมแผนขยายพื้นที่นำร่องเที่ยวเพิ่มเติมอีก 16 จังหวัด รวมเป็น 33 จังหวัด และปีหน้าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ยังเตรียมเปิดเพิ่มอีก 12 จังหวัด รวมเป็น 45 จังหวัด ซึ่งให้เป็นไปตามความพร้อมจังหวัดและความสมัครใจของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ