BTS มีแนวโน้มดีขึ้นในระยะต่อไป (19 พ.ย. 64)

BTS มีแนวโน้มดีขึ้นในระยะต่อไป (19 พ.ย. 64)

กำไรสุทธิของ BTS ใน 2Q65 อยู่ที่ 576 ล้านบาท (-24.7% YoY, -58.3% QoQ) โดยกำไรจากธุรกิจหลักในงวด 1H65 คิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเราที่ 2.95 พันล้านบาท

ขณะที่โครงสร้างรายได้ของ BTS ใน 2Q65 แบ่งเป็น Move 81%, Mix 17% และ Match 2% ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญ และแนวโน้มในอีกสองสามปีข้างหน้าที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์ของ BTS มีดังนี้:

i) รถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองอาจจะล่าช้า โดยเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม 2564 ความคืบหน้าของ
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ที่ 82% และสายสีเหลืองอยู่ที่ 86% ในขณะที่คาดว่าจะเปิด
บริการเต็มรูปแบบได้ในปี 2566 และ 2565 ตามลำดับ โดยคาดว่าจะมีการเปิดให้บริการ
บางส่วนเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2565 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการ
รถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองจะทำให้มีการขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปโดยไม่ต้องจ่าย
ค่าปรับให้กับ รฟม. เพราะเป็นผลมาจาก i) รฟม. ไม่สามารถส่งมอบที่ดินสำหรับการก่อสร้าง
ได้ และ ii) งานก่อสร้างถูกกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ระบาด

ii) เรามองบวกกับแนวโน้มระยะยาวของ VGI โดยในส่วนของกลุ่มธุรกิจ MIX ผู้บริหารคาดว่า
ธุรกิจของ VGI (บริษัทลูกของ BTS) จะเติบโตได้ในระยะยาวหลังจากที่เข้าไปร่วมกับ JMART
ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลบวกจาก VGI ในปี FY65 ในขณะที่คาดว่าดีลจะเสร็จเรียบร้อยในเดือน
ธันวาคม 2564 นอกจากนี้ VGI ยังเข้าไปจับมือกับ YGG เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจเกมด้วย
โดยคาดว่ามูลค่าตลาดในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านดอลลาร์ฯ สำหรับ VGI ทางเรา
คาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโตถึง 166.8% YoY มาที่ 673 ล้านบาทในปี FY66
จากระดับคาดการณ์กำไรสุทธิ 252 ล้านบาทในปี FY65
 

 

 

iii) U City ตั้งเป้าจะเป็นบริษัทที่ดูแลด้านการเงินและการลงทุนให้ BTS โดยในส่วนของกลุ่มธุรกิจ MATCH นั้น BTS คาดว่า U City จะมองหาโอกาสการลงทุนในตลาดการเงินผ่านความร่วมมือกับ JMART และ SINGER โดยปัจจุบันถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของ U City ที่จะเปลี่ยนมาเป็น
บริษัทที่ดูแลให้บริการด้านการเงินและการลงทุนให้กับเครือ BTS

 

คงประมาณการกำไรปี FY65-66F เอาไว้เท่าเดิม

เราคาดว่าผลประกอบการของ BTS ใน 2H65 จะแข็งแกร่งขึ้นจากแนวโน้มสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้นตั้งแต่ 3Q65 ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี FY65F เอาไว้ที่ 2.95 พันล้านบาท (-35.5%YoY) และปี FY66F ไว้ที่ 3.73 พันล้านบาท (+26.4% YoY)

 

Valuation & action

ในระยะสั้น เรามองว่ายังมีบางประเด็นเกี่ยวกับ BTS ที่ยังไม่ชัดเจน ได้แก่ i) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ii) หนี้ค้างรับ 3 หมื่นล้านบาทจากการให้บริการเดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ii) กรณีพิพาทโครงการสายสีส้ม แต่เรายังคาดว่าประเด็นเหล่านี้น่าจะได้ข้อสรุปหลังจากนี้ เนื่องจากโครงการสายสีเขียวเดิมจะหมดสัมปทานในปี 2572 เรายังคงคำแนะนำซื้อ BTS ด้วยราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 12.60 บาท

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง