วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (8 พ.ย. 64)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มกว่า 2% หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบขาดแคลน ไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2% หลังตลาดกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบจะไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ pre-covid แล้ว หลังกลุ่มโอเปคและพันธมิตร (OPEC+) ตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเพียงแค่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าหลายประเทศจะเรียกร้องให้เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้ นอกจากนี้ ตลาดคาดว่าการปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) จากสหรัฐฯ ประเทศเดียว จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคายังคงอยู่ในระดับสูง
+ เศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือน ต.ค. 64 นอกจากนี้ ความสำเร็จของบริษัทฯ Pfizer ในการพัฒนายาเม็ดต้านโควิด-19 ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการป่วยหนักได้ถึง 89% จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังแท่นขุดเจาะที่ได้รับความเสียหายจาก Hurricane ของบริษัท Shell กลับมาดำเนินการผลิตแล้ว ซึ่งเร็วกว่าเดิมคือช่วงต้นปีหน้า และการขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน โดย Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ ปรับเพิ่มขึ้น 6 แท่นจากสัปดาห์ก่อนหน้ามาแตะระดับ 450 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจากอินเดียและจีน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกของเอเชียที่ปรับลดลง โดยเฉพาะจากจีน นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี