ทนไหว “BANPU“ | ออฟเรคคอร์ท-เลาะรั้วการเงิน

ทนไหว “BANPU“ | ออฟเรคคอร์ท-เลาะรั้วการเงิน

ออฟเรคคอร์ด-เลาะรั้ว หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ไปไหนไม่ได้ไกล โดยยังมีแรงขายสลับออกมาให้เห็นเป็นระยะ แต่สุดท้ายแล้วกลับมาปิดบวกได้จากแรงซื้อหุ้นแบงก์และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

  • ทนไหว BANPU

สาละวันเตี้ยลงๆ จริ๊งจริงสำหรับ หุ้นถ่านหินราย ใหญ่ BANPU ในช่วงที่ผ่านมาได้เห็นจากราคาทำท่าจะไป go to the moon ทะลุ 14 บาท กลับไหลรูดมาเจอที่ 10 .70 บาท ขึ้นไปเท่าไรพาราคาลงเร็วยิ่งกว่าขาขึ้น

จน ราคาหุ้น สามารถปิด GAP เด้งกลับขึ้นมาอยู่แถว 11 บาทได้ แต่นักลงทุนยังไม่ไว้วางใจ!!

ด้วยข่าวลบกระทบทยอยกระหน่ำไม่หยุดตั้งแต่ ราคาถ่านหิน ขึ้นไปถึง 270 ดอลลาร์ต่อตัน หล่นมาเหลือ 150 ดอลลาร์/ตัน หรือลดลงถึง 44 % 

ตามมาด้วยทางการ “จีน” ประกาศศิตหยุดความร้อนแรงการเก็งกำไรราคาซื้อขายถ่านหินในตลาดซื้อขายล่วงหน้า และยังเตรียมแผนระยะยาวควบคุมราคาถ่านหินให้มีเสถียรภาพไปอีก 

ยังไม่หมด!! มีข่าวแรงว่างบไตรมาส 3 /2564 ของ BANPU ที่คาดว่าจะกำไรมโหฬารไม่เป็นไปตามคาด เพราะมี สัญญาซื้อขายถ่านหิน ในราคาต่ำกว่าในตลาด 

ทำเอาหุ้น BANPU เซไม่เป็นท่า จนบรรดา “บล็อกเทรด” ฉวยจังหวะ short ทำกำไรกดราคาหุ้นเจอแรงขายท่ามกลาง     วอลลุ่มติดอันดับท็อป 5 ทุกวัน 

ใครที่มือสั่นๆ มอง ราคาหุ้น BANPU แบบนี้ทนไม่ไหว  ให้รู้ไว้เลยว่า  “มือใหญ่- บล็อกเทรด” ช่วยกันกด ราคาหุ้น ให้    n  ใครทนไหวต้องไหวตัวให้ทัน 

๐ หุ้นไทย แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ไปไหนไม่ได้ไกล โดยยังมีแรงขายสลับออกมาให้เห็นเป็นระยะ แต่สุดท้ายแล้วกลับมาปิดบวกได้จากแรงซื้อ หุ้นแบงก์ และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,617.89 จุด เพิ่มขึ้น 4.11 จุด หรือ 0.25% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,621.69 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,608.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,900.88 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 628.47 ล้านบาท รายย่อยขาย 1,132.05 ล้านบาท ขณะที่พอร์ตโบรกฯ ซื้อ 390.20 ล้านบาท และสถาบันซื้อ 1,370.30 ล้านบาท

๐ “กลุ่มชิ้นส่วนฯ” โชว์ฟอร์มได้ดี มองว่าหลัง โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เศรษฐกิจเริ่มฟื้น ภาคการผลิตจะยิ่งคึกคัก โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่ช่วงนี้กำลังบูมสุดๆ

นักลงทุนคงคุ้นเคยกับหุ้นใหญ่ประจำกลุ่มเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ทั้งบมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA), บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE), บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ซึ่งราคาค่อนข้างสูง แถมปรับตัวขึ้นมาเยอะ

แต่ที่จริงแล้วยังมี หุ้นเล็ก อีกหลายตัวที่น่าสนใจ อย่างบมจ.ทีมพรีซิชั่น (TEAM) ซึ่งแผงวงจรเป็นสินค้าเรือธง วานนี้ (2 พ.ย.) พุ่งแรงบวก 4.37% ปิดที่ 4.30 บาท จากแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 18%

ขณะที่บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) ไม่น้อยหน้า บวก 4.84% ปิดที่ 6.50 บาท โดยเตรียมประกาศงบไตรมาส 3 ปี 2564 วันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.) ซึ่งผู้บริหารมั่นใจไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

๐ ด้านบมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ปิดที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 3.70% เป็นอีกหนึ่ง หุ้นดาวเด่น ประจำปีนี้ หลังราคาค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่อง ตามกำไรสุทธิที่เดินหน้าทำนิวไฮมา 5 ปีติด แถมมีสตอรี่ใหม่จากการรุก “ธุรกิจสายเขียว” เข้ามาช่วยเติมเสน่ห์ คาดเห็นอัพไซด์จากธุรกิจใหม่เต็มๆ ในปีหน้า

๐ ส่วนหุ้นบมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) พุ่งรับข่าวดี หลังตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ “ไซมิส แอสเสท แอนด์ เวลธ์ แมเนจเมนท์” รุกธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ต่อยอดจากธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจร ดันราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 8.70%

๐หลัง “วัคซีนโมเดอร์นา” ล็อตแรกแลนด์ดิ้งถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ ที่สั่งซื้อวัคซีนไว้ เริ่มนัดหมายลูกค้าที่จองฉีดวัคซีนเข้ามารับบริการ

อย่าง "รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ" ของบมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนรอบแรก 7,280 โดส เตรียมเปิดให้ผู้ใช้บริการนัดหมายวันและเวลาฉีดวัคซีน ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ระหว่างวันที่ 8-11 พ.ย. นี้ และจะเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.princsuvarnabhumi.com/moderna-check/