วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (1 พ.ย. 64)

+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์การประชุมกลุ่มโอเปคพลัสในวันที่  4 พ.ย. 64 จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพียง 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 64  ตามข้อตกลงเดิม โดยแองจีเรียเห็นว่ากลุ่มโอเปคพลัสไม่ควรเพิ่มกำลังการผลิตเกิน 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูง

- อิหร่านประกาศที่จะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ภายในเดือน พ.ย. 64  กับประเทศมหาอำนาจ     ทำให้ตลาดกังวลปริมาณส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอาจเพิ่มขึ้น

- จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 29 ต.ค. 64 เพิ่มขึ้น 2 แท่น แตะระดับ 544 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 หลังราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จูงใจให้ผู้ผลิตกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง

- ราคาก๊าซธรรมชาติอังกฤษและยุโรป เริ่มปรับตัวลดลง หลังรัสเซียประกาศส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังถังเก็บก๊าซธรรมชาติในยุโรปเพิ่มเติม

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 22 ต.ค. 64 อยู่ที่ระดับ 9.323 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 63 ราว 9.1%

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 27 ต.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 9.95%