“โพลาโดรน” ทุ่ม 140 ล้านบาท ปฏิวัติอุตสาหกรรมโดรนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การขาดแคลนแรงงานและการระบาดของโควิด-19 เร่งให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ภาคการเกษตรมากขึ้น โดรนเพื่อการฉีดพ่น เฉพาะได้นิยมนำมาใช้มากขึ้นล่าสุด โพลาโดรน ร่วมทุนกับพันธมิตร กว่า 140 ล้านบาท เพื่อเปิดตัว Mist Drone ที่สามารถฉีดพ่นครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มากขึ้น
เฉิน จิน ซี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โพลาโดรน กล่าวว่า เมื่อเดือนส.ค. 2563 โพลาโดรน เปิดตัว Oryctes โดรนเกษตรเพื่อใช้ในการฉีดพ่น (spot spraying) เฉพาะจุดตัวแรกของโลก พร้อมระบบการทำงานแบบอัตโนมัติที่แม่นยำ และมีประสิทธิภาพช่วยแก้ไขปัญหาให้กับภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสวนปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่
ในส่วนของสวนปาล์มน้ำมันนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าด้วงแรด (rhinoceros beetles) เป็นศัตรูตัวฉกาจที่นำความเสียหายมาสู่ต้นปาล์มที่ยังไม่สมบูรณ์ ส่งผลต่อความสามารถในการสังเคราะห์แสงและจำนวนผลผลิตลดลงอย่างมาก ทำให้จำเป็นต้องมีการฉีดพ่นสารฆ่าแมลงอยู่บ่อยครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นปาล์มเป็นโรค
การฉีดพ่นที่ใช้เครื่องพ่นคันโยกสะพายหลังและรถแทรกเตอร์ติดถังพ่นยานั้นเป็นทั้งการใช้แรงงานจำนวนมากและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนงาน การขาดแคลนแรงงานเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 19 เร่งให้การนำเทคโนโลยีมาใช้เร็วยิ่งขึ้นและ โพลาโดรน ได้เพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นอีกสี่เท่าจาก 20 คนเป็นกว่า 80 คน ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เพื่อรับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้
ล่าสุด โพลาโดรน เพิ่งเปิดตัว Mist Drone โดรนเพื่อการเกษตร ใช้ในการฉีดพ่นครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่เหมาะสำหรับ การปลูกพืชในทุ่งโล่ง เช่น ข้าว อ้อย และข้าวโพด
โพลาโดรน เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2561 และได้สร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งกับผู้ใช้บริการโดรนในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม การเปิดตัวของ Mist Drone ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากชาวนาทั่วประเทศ
โดยโพลาโดรน ได้ระดมทุน seed 4.29 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 140 ล้านบาท กับ เวฟเมค เกอร์ พาร์ทเนอร์ส มาเลเซียน เทคโนโลยี ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น (MTDC) กองทุนเพื่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีรัฐบาลมาเลเซียถือหุ้นทั้งหมด บริษัท ZB แคปปิตอล จำกัด (ZB Capital Limited) บริษัทที่ดำเนินธุรกิจการลงทุนในประเทศฮ่องกง นางสาว ซุย หลิง เชีย (Sui Ling Cheah) และนักลงทุนอิสระอีกหลายราย โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนบุคลากรในประเทศไทยอีก 3 เท่าภายใน ปี65 เพื่อเป็นการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศ
“การระดมทุนรอบนี้จะช่วยให้เราสามารถขยายการดำเนินงานเพื่อมอบการบริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้าในภูมิภาค และดึงดูดบุคลากรผู้มีความสามารถระดับหัวกะทิมาร่วมงานกับเราเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”
ทั้งนี้ โพลาโดรน อยู่ระหว่างจัดตั้งศูนย์บริการ (Service Centres) ในเมืองเกษตรกรรมเพื่อนำเสนอการบริการด้าน “การขาย, การให้บริการ และ อะไหล่” (Sales, Service, and Spare Parts) ทั้งในประเทศมาเลเซียและไทย และกำลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดอื่นในภูมิภาคโดยเฉพาะในประเทศ อินโดนิเซีย นอกจากนี้ ศูนย์บริการยังจะทำหน้าที่ในฐานะศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Centres of Excellence) ที่ให้การฝึกอบรมและแบ่งปันองค์ความรู้ของภาคอุตสาหกรรมเพื่อกระตุ้นให้เกิดการนำเทคโนโลยีโดรนมาใช้
“ลูกค้าหลายรายของโพลาโดรน ต้องพึ่งพาโดรนในการประกอบอาชีพ ดังนั้น ศูนย์บริการของโพลาโดรน จึงอำนวยความสะดวกให้ระดับท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับใช้เข้ากับพื้นที่เพาะปลูกได้ทุกขนาด ปัจจุบัน โพลาโดรน ทำงานร่วมกับ 8 ใน 10 สวนปาล์มที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ซึ่งเป็นผลงานที่น่าประทับใจที่ทำให้มั่นใจที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทางการเกษตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
แอรอน ชินด์เล่อร์ กรรมการผู้จัดการ โพลาโดรน ประเทศไทย กล่าวว่า ความนิยมใช้โดรนเพื่อการเกษตรที่ขยายตัวมากขึ้น การเร่งผลักดันโพลาโดรน นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ ล่าสุดมา คือ Oryctes และ Mist drones
“เกษตรกรรม เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย โดยมีการจ้างงานประมาณ 40% ของแรงงานทั้งหมดในประเทศ ด้วยนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่มุ่งเน้นการเกษตร 4.0 เรากำลังจะได้เห็นการเติบโตอย่างมากของการใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติและโดรน ด้วยศักยภาพของทีมบุคลากร เงินทุน และผลิตภัณฑ์ ทำให้ โพลาโดรน อยู่ในจุดที่พร้อมให้การสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ส่งเสริม และพัฒนาให้อุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การเป็นอุตสาหกรรมสมัยใหม่”