‘แสนสิริ’อัดแคมเปญปลุกดีมานด์!ลุยคอนโดโลว์ไรส์‘โอนเร็วปั๊มรายได้’

นับเป็นสัญญาณบวกฟื้นเศรษฐกิจและประเทศไทย หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 พร้อมประกาศเปิดประเทศ 1 พ.ย. ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปลดล็อกมาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ให้กู้ได้ 100% สำหรับการซื้อบ้านหลังแรกราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท และบ้านหลังที่สองขึ้นไปในทุกระดับราคาจากเดิมต้องวางเงินดาวน์ 10-30% เป็นผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ซึมลึกมานานจากวิกฤติโควิด และการที่ ธปท. ประเมินความเสี่ยงแล้วพบว่าการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์เวลานี้อยู่ในระดับต่ำ! จึงผ่อนคลายมาตรการแอลทีวี ให้กู้ได้ 100% ถึงสิ้นปี 2565 หรือคิดเป็นระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน นั้น ถือเป็นข่าวดี!! ของทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการ เพราะเป็นการ “ปลดล็อก” ข้อจำกัดของลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักจากวงเงินของลูกค้าสามารถกู้ได้สูงขึ้นจากเดิมจำกัดอยู่ที่ 70-90%

“แสนสิริมองว่าการปลดล็อกมาตรการแอลทีวีจะรองรับลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์ที่ไม่ได้เกิดจากการซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง"

จะเห็นได้จากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปของกลุ่มลูกค้า พบว่าต้องการบ้านหลังแรกหรือบ้านหลังที่ 2 เพื่อเปลี่ยนหรือขยับขยายที่อยู่อาศัยใหม่ อาทิ กลุ่มลูกค้าที่มีบ้านอยู่แล้ว แต่อยากได้คอนโดมิเนียมในเมืองใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้โรงเรียนลูก หรือกลุ่มลูกค้ามีบ้านหลังแรกอยู่แล้ว แต่ต้องการขยายครอบครัวในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ขึ้น รวมทั้งกลุ่มลูกค้ามีคอนโดมิเนียมอยู่แล้ว แต่อยากได้บ้าน หรือ ทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยให้กว้างขวางขึ้น

การปลดล็อกแอลทีวีถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้นได้ เป็นการกระตุ้นดีมานด์ที่อั้นไว้ (Pent Up Demand) ให้กลับมาซื้อที่อยู่อาศัยอีกครั้งเมื่อเห็นสัญญาณว่า ปลายอุโมงค์มีแสงสว่าง เป็นจังหวะดีที่ออกมาในช่วงเวลานี้ ปลุกความรู้สึกมั่นใจในการใช้จ่าย ยิ่งหลังจากเปิดประเทศทำให้ชาวต่างชาติกลับเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่ว่าเป็นธุรกิจบริการ เฮลธ์แคร์ ส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์

"เศรษฐกิจไทยเหมือนขบวนรถไฟฟ้าที่กำลังอยู่ในภาวะชะลอจนถึงขั้นเกือบหยุด ฉะนั้นการผลักดันให้รถไฟเคลื่อนตัวต้องใช้กำลังค่อนข้างมาก ไม่ใช่แค่อัดน้ำมันอย่างเดียว แต่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น หรือต้องเปลี่ยนเครื่องจักรบางอย่างเพื่อทำให้มีแรงขับดันสูงขึ้น และต้องใช้เวลา"

ในส่วนของ “แสนสิริ” ได้ให้ความรู้กับลูกค้าในเตรียมความพร้อมเพื่อขอสินเชื่อ รวมทั้งร่วมกับธนาคารพันธมิตรให้ “ดอกเบี้ยต่ำ” สำหรับลูกค้าเกรดดี ในอัตราดอกเบี้ย 2.5% ช่วง 3 ปีแรก ถือเป็นเรทที่ดี

อุทัย เชื่อว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2565 จะดีกว่าปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ตัวเลขจีดีพีขยับขึ้นแม้จะยังไม่กลับสู่ภาวะปกติก่อนเกิดโควิด-19 โดยคาดว่าต้องใช้เวลาราวปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 เศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาปกติ! ซึ่ง รัฐบาลน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเป็นระยะ รวมถึงการขยายเวลาปลดล็อกแอลทีวีเพิ่มอีก 1 ปี หากเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น

"2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ การแข่งขันในตลาดยังคงรุนแรง ผู้ประกอบการทุกค่ายต้องการผลักดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ต่างระดมแคมเปญดึงดีมานด์ที่อั้นและค้างอยู่ช่งง 1-2 ปีที่ผ่านมาให้ไหลกลับเข้ามา ซึ่งการปลดล็อกแอลทีวีทำให้ลูกค้ากลุ่มเก่าที่ไม่สามารถกู้ได้ 100% กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง”

ปัจจุบัน “แสนสิริ” มีสต็อกพร้อมโอนรวม 12,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมมูลค่า 10,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยจะมีแคมเปญโปรโมชั่น “ถี่” เดือนละครั้งจากเดิมเฉลี่ยไตรมาสละครั้ง ล่าสุด จัดโปรโมชั่นโครงการบ้านเดี่ยวให้ส่วนลด 3 ล้านบาท ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนทุกเซ็กเมนต์ราคา ส่วนคอนโดมิเนียมมีแคมเปญอยู่ฟรี 2 ปี ไม่นับรวมส่วนลดและของแถม แต่ละโครงการที่แตกต่างกันในรายละเอียด รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้

สัญญาณบวกทั้งการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การเปิดประเทศ การปลดล็อกแอลทีวี ทำให้บริษัทปรับแผนเร่งงานก่อสร้างรองรับดีมานด์ที่กำลังไหลกลับเข้าในปี 2565 โดยปรับแนวทางการพัฒนาจาก “ตึกสูง” มาเป็นโครงการตึกเตี้ย หรือ คอนโดโลว์ไรส์ ภายใต้แบรนด์ “เดอะมูฟ” คอนโดมิเนียม 8 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 12-14 เดือน ทำให้โอนได้เร็วภายในกลางปีหรือปลายปีหน้า ขณะที่ตลาดบ้านใช้ระบบพรีคาสท์ ใช้เวลาก่อสร้าง 6-8 เดือน

  เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ “แสนสิริ” เพื่อเร่งสร้างการรับรู้รายได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงที่ดี รองรับการปลดล็อกแอลทีวีที่คาดหวังดีมานด์จะกลับเข้ามามากขึ้น! 

สำหรับผลประกอบการ 10 เดือน ที่ผ่านมา มียอดขาย 28,000 ล้านบาท หรือ 90% จากเป้าหมาย 31,000 ล้านบาท มียอดโอนที่อยู่อาศัยแล้วกว่า 24,300 ล้านบาท ราว 78% จากเป้า 31,000 ล้านบาท เชื่อว่ายอดขายและยอดโอนจะเป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน