ค้าปลีก ชี้ ธุรกิจโมเดิร์นเทรดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

ค้าปลีก ชี้ ธุรกิจโมเดิร์นเทรดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ เผย ดัชนีโมเดิร์นเทรดไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 47.9 ชี้ คนละครึ่ง คลายล็อคดาวน์ เปิดประเทศ ดึงดัชนีโมเดิร์นเทรดกระเตื้อง ด้านค้าปลีกชี้ ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ขอเร่งรัฐออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการเพื่อฟื้นฟูร้านค้ารับเศรษฐกิจฟื้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย   กล่าวถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดริ์น เทรด ประจำเดือนไตรมาสที่  3 ปี 2564   ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบการ 111 ตัวอย่างทั่วประเทศ  ระหว่างวันที่ 18 ก.ย. 2564 ถึง 8 ต.ค. 2564 พบว่า  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Modern Trade (MTSI) ในไตรมาส 3/2564 ปรับสูงขึ้นอีกครั้งในรอบ 2 ไตรมาส โดยดัชนีรวมอยู่ที่ 47.9  ดัชนีฯในปัจจุบันอยู่ที่ 47.1 และดัชนีฯในอนาคตอยู่ที่ 48.7 เนื่องจากปลายไตรมาส 3 รัฐทยอยคลายล็อกมาตรการต่างๆ และผู้ประกอบการมองว่าค้าปลีกน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีโมเดิร์นเทรดดีขึ้นมาจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่งเฟส 3  ยิ่งใช้ยิ่งได้  เรารักกัน  โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุย พลัส โมเดล สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด –19 ดีขึ้นต่อเนื่อง การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 การผ่อนคลายให้ธุรกิจโมเดิร์นเทรด เปิดได้ตามเวลาที่กำหนด

ขณะที่ปัจจัยลบยังคงกดดันธุรกิจโมเดิร์นเทรดคือ ไตรมาส 3 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดในจังหวัดพื้นที่สีแดง แผนการฉีดวัคซีนที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงพืชผลทางการเกษตร ภาระหนี้สินของครัวเรือน อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับสูงส่งผลต่อกำลังซื้อในประเทศ

ไตรมาส 3 เป็นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจไทย และเป็นจุดต่ำสุดของโมเดิร์นเทรด แต่คาดว่าจะดีขึ้นในไตรมาส 4 จากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ การเปิดประเทศ โควิดดีขึ้น  อย่างไรก็ตามยังกังวลในเรื่องของต้นทุน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น”

สำหรับข้อเสนอแนะที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาคือ  การเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คลอบคลุมประชาชนให้มากที่สุด  รองรับแผนการเปิดประเทศ  ออกมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงมาตรการลดภาษีจากค่าใช้จ่ายในการป้องกันโควิด-19 รัฐบาลควรมีแผนป้องกันและบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจในการเปิดประเทศ

ทั้งนี้ศูนย์ฯได้ประเมินว่า การที่รัฐบาลเติมเงินในโครงการคนละครึ่งเฟส 3 อีก 1,500 บาท มีเม็ดเงิน  4.5 หมื่นล้านบาท เมื่อบวกกับประชาชนอีก 4.5 หมื่นล้านบาท รวมเม็ดเงินทั้งหมดในโครงการจำนวน 1 แสนล้านบาทจะกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ให้ขยายตัวได้  2 %  ส่งผลให้จีดีพีไทยไตรมาส  4 ขยายตัว  3-4 % ประกอบกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา 2 - 3 แสนคน จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่มอีก 1-1.5 หมื่นล้านบาท จะกระตุ้นจีดีพีไตรมาส 4  เพิ่มอีก  0.3 %  ซึ่งจะทำให้ภาพรวมทั้งปีจีดีพีไทยขยายตัวได้  1-1.5 %        

นางสาวชลิดา จันทร์สิริพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทกลุ่มเซนทรัล จำกัดและกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการกลุ่มค้าปลีกและบริการ สภาหอการหอการค้าไทย กล่าวว่า    แม้มีการคลายล็อกกิจการ แต่พบว่ากำลังซื้อยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร แม้ว่า โครงการคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้  เราเที่ยวด้วยกัน ทัวร์เที่ยวไทย จะเริ่มเข้ามาเป็นปัจจัยบวกช่วยเหลือ โมเดิร์นเทรด ค้าปลีก หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และ คาดว่าเมื่อฉีดวัคซีนครอบคลุมทั้งประเทศ 70% ภายในปี 64 จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริโภคและการลทุน ทำให้โมเดิร์นเทรดกลับมาเปิดให้บริการได้ปกติ  

ทั้งนี้ทางภาคธุรกิจโมเดิร์นเทรดต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคธุรกิจโมเดิร์นเทรดคือ  มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยลดค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัคซีนและช่วยเหลือลูกจ้างหรือการช่วยเหลือร้านค้าในศูนย์การค้า และรายจ่ายในการฟื้นฟูสภาพร้านค้าหลังจากปิดกิจการเป็นเวลานา หักเป็นรายจ่ายทางภาษีได้เพิ่มเติมจากปกติ การช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย  นอกจากนี้ขอให้รัฐเร่งแก้ไขเกณฑ์การปล่อยห้สินเชื่อซอฟโลน ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินเหลือ 2.5 แสนล้านบาท แต่ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย ยังไม่สามารถกู้เงินได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบต่างๆ