SCB - อัพไซด์ระยะสั้นเริ่มจำกัด (25 ตุลาคม 64)

SCB - อัพไซด์ระยะสั้นเริ่มจำกัด (25 ตุลาคม 64)

SCB รายงานกำไร 3Q21 แข็งแกร่งจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยดีกว่าคาด อย่างไรก็ตามคุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มอ่อนแอลงจากสัดส่วน NPL และสินเชื่อในมาตรการบรรเทาผลกระทบสูงขึ้น

เนื่องจากอัพไซด์ที่จำกัดหลังราคาหุ้นปรับขึ้นแรงขึ้น เราปรับคำแนะนำ SCB ลงเป็น ถือ บนราคาเป้าหมายใหม่สำหรับสิ้นปี 2022 ที่ 136 บาท อ้างอิง PBV 1x

 

รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยแข็งแกร่งแม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง

SCB รายงานกำไร 3Q21 แข็งแกร่งที่ 8.8 พันลบ. ทรงตัว qoq แต่เพิ่มขึ้น 90% yoy ผลประกอบการสูงกว่าที่เราและตลาดคาด 15% และ 18% ปัจจัยที่ดีกว่าคาดมาจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-NII) โดยเฉพาะกำไรจากการปรับมูลค่าตลาด (MTM) ของเครื่องมือทางการเงิน หรือ วิธีมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน (FVTPL) รายได้ Non-NII เติบโต 3% qoq และ 24% yoy เป็น 1.34หมื่นลบ. แม้จะมีผลกระทบจากการปิดเมืองและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในไตรมาสที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น non-recuring income 2.8 พันลบ. (+18% qoq / +78% yoy) และ recuring income 1.06 หมื่นลบ. (ทรงตัว qoq / +15% yoy)

 

 

 

สินเชื่อในมาตรการบรรเทาผลกระทบเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มรายย่อย

แม้ผลประกอบการจะดีกว่าคาดแต่ยังไม่น่าดีใจ เนื่องจากผลประกอบการได้แรงหนุนจากรายได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากกำไร MTM อีกทั้งประเด็นคุณภาพสินทรัพย์กลายเป็นจุดน่าติดตามโดยเฉพาะหลัง SCB รายงานสัดส่วน NPL ที่สูงขึ้นเป็น 3.89% จาก 3.79% ในไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงสินเชื่อในมาตรการความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจาก 16% เป็น 20% ของพอร์ต ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ โดยธนาคารอื่นอยู่ในระดับราว 10-15%

 

ปรับคำแนะนำลงสู่ ถือ จากอัพไซด์ของ valuation ที่จำกัด

หากมองต่อไปข้างหน้า เราคาด SCB มีโมเมนตัมกำไรทรงตัว qoq แต่อาจดีขึ้น yoy ใน 4Q21 ผลจากฐานกำไรที่ต่ำจากการตั้งสำรองที่สูงที่สุดในปีที่ผ่านมาที่ 1.4หมื่นลบ. ใน 4Q20 เราปรับฐานการประเมินมูลค่าเป็นปี 2022 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ของเราที่ 136 บาทอ้างอิง PBV 1.0x (จาก 132 บาท) เราปรับคำแนะนำ SCB เป็นถือ จากอัพไซด์ที่จำกัด แม้ SCB มีแผนในการปรับองค์กรเป็นบริษัท holding แต่ธุรกิจที่มีการเติบโตยังเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับขนาดสินทรัพย์และกำไรของธุรกิจธนาคารอีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์