หุ้นบิ๊กแคปฉุดตลาดร่วง "กองทุน-ต่างชาติ" เทขาย 4.7 พันล้าน

หุ้นบิ๊กแคปฉุดตลาดร่วง "กองทุน-ต่างชาติ" เทขาย 4.7 พันล้าน

“นักลงทุนสถาบัน-ต่างชาติ” จับมือขายหุ้นไทยรวม 4,716.89 ล้านบาท กดหุ้นบิ๊กแคปร่วงนำตลาด ด้าน “บล.เมย์แบงก์ฯ” คาดเป็นแรงขายทำกำไร-รอดูงบไตรมาส 3 ปี 64 “บล.เอเซีย พลัส” ชี้นักลงทุนขายทำกำไร หลังหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเด่นกว่าภูมิภาค-ทดสอบแนวต้าน 1,650 จุด

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวานนี้ (19 ต.ค.) ดัชนีปิดที่ 1,630.39 จุด ลดลง 13.53 จุด หรือ 0.82% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 96,547.31 ล้านบาท โดยเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงบ่ายที่ดัชนีปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดที่ 1,627.12 จุด ลดลง 16.80 จุด หรือ 1.02%

สำหรับ มูลค่าการซื้อขายพบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศ (กองทุน) ขายสุทธิ 3,125.32 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 1,591.57 ล้านบาท รวมมูลค่าการขายสุทธิ 4,716.89 ล้านบาท ขณะที่บัญชีหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 647.06 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศทั่วไป (รายย่อย) ซื้อสุทธิ 4,069.83 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยคาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังจากช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าภูมิภาค (Outperform) เพราะได้ปัจจัยบวกจากกระแสข่าวการเปิดประเทศ รวมถึงปัจจุบันยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน ส่งผลให้ดัชนีไม่สามารถเคลื่อนผ่านแนวต้านสำคัญ 1,650 จุด

นอกจากนี้ คาดว่านักลงทุนสถาบันชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของการประกาศงบไตรมาส 3 ปี 2564 ซึ่งคาดว่าจะถูกกระทบจากโควิด-19 สะท้อนจากกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวลงนำตลาดส่วนใหญ่กระจุกอยู่ในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) 10 อันดับแรก ซึ่งเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนสถาบัน เช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เป็นต้น

สำหรับ แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่เหลือ (20-21 ต.ค.) ประเมินแนวรับที่ 1,620 จุด และแนวต้านที่ 1,650 จุด เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน ประกอบกับถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ ความกังวลภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และความกังวลที่ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นอาจมาถึงเร็วกว่าที่คาดการณ์ สะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นเท่ากับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบใหม่เข้ามากระทบ คาดการปรับตัวลงของตลาดหุ้นวานนี้มาจากการขายทำกำไร (Take Profit) ของนักลงทุน เพราะช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับขึ้น Outperform ภูมิภาค รวมถึงเป็นแรงขายทำกำไรภายหลังปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,650 จุด