"หุ้นไทย" เปิดภาคเช้าบวก 4.98 จุด ลุ้น ศบค.คลายล็อกดาวน์เพิ่ม

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (14 ต.ค.2564) ดัชนี SET (SET Index) เปิดตลาดบวกขึ้นมาอยู่ที่ 1,648.62 จุด เพิ่มขึ้น 4.98 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.30% ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อย แต่ยังเคลื่อนไหวในแดนบวก

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ แนวต้าน 1,654-1,658 จุด และแนวรับ 1,637-1,629 จุด หลังอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย.ของสหรัฐฯ ออกมาที่ 5.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มากกว่าคาดที่ 5.3% ขณะที่รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC Minutes) สำหรับการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 21-22 ก.ย.ระบุว่า กรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงกลางเดือน พ.ย.หรือกลางเดือน ธ.ค.ปีนี้

โดย บล.โนมูระฯ ยังคงมุมมองที่เฟดจะประกาศในเดือน พ.ย. แต่อย่างไรก็ดี ประเมินว่าตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงถัดไป ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และตัวเลขภาคแรงงานที่แข็งแกร่ง เพิ่มความเสี่ยงที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ที่ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566

อ่านข่าว : โบรกคาด "ฟันด์โฟลว์" จ่อเข้าหุ้นไทยกว่า 5 หมื่นล้าน มั่นใจเปิดประเทศ

ทั้งนี้ ความเสี่ยงทางฝั่งสหรัฐฯ ผ่อนคลายไปหนึ่งประเด็น หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้เป็นการชั่วคราวแล้ว และเตรียมส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 18 ต.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ ถือเป็นจิตวิทยาบวก

สำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นภาพย่อแล้วดีด S&P500 บวก 0.3% ส่วน NASDAQ บวก 0.73% หนุนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นราว 1%

ส่วนปัจจัยภายใน ทางด้านตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้เพิ่มขึ้น 11,276 ราย เสียชีวิต 112 ราย ขณะที่ยอดหายป่วยกลับบ้านต่ำกว่ายอดติดเชื้อใหม่ที่ 10,407 ราย ขณะที่วันนี้ จับตา ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติม โดยจะมีการรวมถึงพิจารณาปรับลดจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มลง และเตรียมผ่อนคลายกิจการกิจกรรมเพิ่มเติม ซึ่งก็คือ ให้สามารถจัดการประชุม รวมถึงงานประเพณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมได้

นอกจากนี้ เตรียมปรับลดเวลาเคอร์ฟิว จากปัจจุบัน 22.00 - 04.00 น. เป็น 23.00 - 03.00 น. ไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 - 31 ต.ค. รวมถึงจะมีการพิจารณาแผนเปิดประเทศ 1 พ.ย. และแผนเปิดสถานบันเทิง 1 ธ.ค. แนะนำติดตามความชัดเจน

ทั้งนี้ ภาครัฐฯเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดย สศค.กำลังพิจารณานำมาตรการช้อปดีมีคืนกลับมาช่วยกระตุ้นใช้จ่าย เพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการราว 4 ล้านคน คาดจับจ่ายช่วงเดือน ธ.ค.2564 - ม.ค.2565 คาดชัดเจนสัปดาห์หน้า เป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มค้าปลีก

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือหุ้น 50% คงพอร์ตหลักกลุ่มที่จะปรับขึ้นโดดเด่น (Outperform) กว่าดัชนี SET ได้แก่ โรงไฟฟ้า (GPSC, GULF, BCPG) โรงพยาบาล (BDMS, BH, BCH) กลุ่มสื่อสารฯ (ADVANC, TRUE) ส่งออก (KCE, HANA. TU) และโรงกลั่น (TOP, PTTGC)