คลังตัดสิทธิ์กว่า 2 พันราย ผิดเงื่อนไข ‘เราชนะ’

คลังแจงระงับสิทธิผู้ประกอบการเราชนะแล้วกว่า 2 พันราย เหตุทำผิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขโครงการ ย้ำเพื่อรักษาสิทธิประชาชนและเพื่อความเป็นธรรมแก่คนส่วนใหญ่ที่ทำตามหลักเกณฑ์

ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. พรชัย ฐีระเวช ระบุ จุดประสงค์ของโครงการเราชนะคือการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน และช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ โดยประชาชนผู้ได้รับสิทธิ จำนวน 33.2 ล้านคน จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 9,000 บาท 
ตลอดโครงการ ด้วยการใช้จ่ายกับผู้ประกอบการร้านค้าในโครงการ 1.3 ล้านราย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และบัตรประจำตัวประชาชน 

ที่ผ่านมา กระทรวงฯได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ มาโดยตลอด รวมถึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ สามารถแจ้งเบาะแสและส่งหลักฐานการกระทำที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขโครงการฯมายัง สศค. ซึ่งมีประชาชนบางส่วนส่งเบาะแสและหลักฐานมาให้ โดย สศค. จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายสำหรับผู้ที่กระทำผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ต่อไป

การกำหนดแนวทางอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมและป้องกันการกระทำผิดวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เพื่อรักษาสิทธิที่ประชาชนได้รับและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคำยินยอมที่ได้ตกลงไว้ 

สศค.ได้จัดตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะ เพื่อติดตามตรวจสอบการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด ในกรณีที่พบการกระทำที่ฝ่าฝืน เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด จะดำเนินการระงับสิทธิการเข้าร่วมโครงการ และร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนต่อไป

 

สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานกับผู้ที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการ เช่น การระงับสิทธิชั่วคราวการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เมื่อพบพฤติกรรมที่ผิดปกติในธุรกรรมการใช้จ่าย เช่น จุดรับเงินของแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ขยับไปมาระยะไกล ธุรกรรมเต็มจำนวนวงเงินสิทธิเป็นจำนวนมาก และแจ้งให้ผู้ประกอบการให้ติดต่อกลับเพื่อชี้แจงโต้แย้ง ภายใน 14 วัน ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้ว จะนำเอกสารชี้แจงโต้แย้งของผู้ประกอบการที่ได้รับเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานฯ 

หากพบหลักฐานว่าผู้ประกอบการกระทำการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์จริง หรือผู้ประกอบการไม่ชี้แจงโต้แย้งพร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องภายในระยะเวลาที่กำหนด จะได้มีหนังสือประทับตราแจ้งผลวินิจฉัยและขอให้ชำระเงินคืนให้แก่โครงการฯ และผู้ประกอบการสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือประทับตรา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนดังกล่าว หากไม่มีการชี้แจงหรือส่งข้อมูลหลักฐานประกอบการอุทธรณ์ภายในเวลาที่กำหนด หรือไม่ชำระเงินคืน หรือกรณีอุทธรณ์มาแต่คณะทำงานฯเห็นว่ายังมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไข จะทำหนังสือแจ้งผู้ประกอบการอีกครั้ง ก่อนดำเนินการเรียกร้องตามกฎหมายต่อไป

ที่ผ่านมา ได้ระงับสิทธิถาวรผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการแล้ว  2,099 ราย และออกหนังสือแจ้งผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” เพื่อคืนเงินที่ได้รับ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้ผู้ประกอบการขออุทธรณ์ได้ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

อ่านข่าว : คลังตัดสิทธิผู้ประกอบการร่วม”เราชนะ”แล้ว2พันราย