กรมวิชาการเกษตร มัดรวมเทคโนโลยี ผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ

กรมวิชาการเกษตร มัดรวมเทคโนโลยี ผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ

กรมวิชาการเกษตร รวมชุดเทคโนโลยีผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ นำร่องถ่ายทอดชาวสวนปาล์มสุราษฎร์ธานี พบ ต้นทุนลด 40 เปอร์เซ็นต์ ผลผลิตเพิ่ม 2 เท่า ปีหน้าส่งต่อทุกพื้นที่

นางสาวอิงอร  ปัญญากิจ  รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่มีปัญหาด้านปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ราคาจำหน่าย  ราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง  ซึ่งกระทบต่อการผลิตปาล์มน้ำมัน ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี  สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน  จึงได้จัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนด้วย

นวัตกรรมปาล์มน้ำมันโดยประมวลเทคโนโลยีการผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้จากการศึกษาวิจัยหลายด้านอย่างต่อเนื่องจัดเป็นแพคเกจหรือเป็นชุดเทคโนโลยี การจัดการการผลิตที่สนับสนุนการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย

 การให้น้ำด้วยระบบมินิสปริงเกอร์  การจัดการธาตุอาหารตามผลวิเคราะห์ดิน-ใบ การเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมันคุณภาพ  การประเมินปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตโดยคํานวณปริมาณน้ำจากผลรวมของทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่ของการผลิตปาล์มน้ำมัน การเพิ่มศักยภาพการใช้ที่ดินและประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย  และการเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของปาล์มน้ำมัน

กรมวิชาการเกษตร มัดรวมเทคโนโลยี ผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ

โครงการดังกล่าวได้คัดเลือกเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดในประเทศเข้าร่วมโครงการจำนวน 95 ราย 11 อำเภอ  รวมพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 1,680 ไร่   ซึ่งผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการพบว่าเกษตรกรได้ผลผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ และลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้ ถึง 40 เปอร์เซ็นต์  

จากความโดดเด่นของผลงานดังกล่าวที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้แก่เกษตรกรเห็นผลอย่างชัดเจนทำให้ได้รับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2564 จากสำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่มีความโดดเด่นในการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ และมุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จและมีความเป็นเลิศแห่งหน่วยงาน 

กรมวิชาการเกษตร มัดรวมเทคโนโลยี ผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ

นางสาววิชณีย์  ออมทรัพย์สิน  นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ  ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การดำเนินการในโครงการครั้งนี้ได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยเปลี่ยนจากให้เกษตรกร “รับรู้” เป็น “เรียนรู้” โดยจัดฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติให้แก่เกษตรกร   และโครงการได้จัดซื้อวัสดุให้น้ำแบบมินิสปริงเกอร์แก่เกษตรกรไม่เกิน 10 ไร่ต่อราย

 พร้อมอบรมวิธีการติดตั้งระบบให้น้ำโดยเน้นให้เกษตรกรเรียนรู้จากการปฏิบัติด้วยตนเอง   ซึ่งการจัดการธาตุอาหารได้ตรงตามความต้องการของปาล์มน้ำมัน  ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นได้เต็มศักยภาพของพันธุ์ปาล์มน้ำมัน เกษตรกรได้รับรายได้จากน้ำหนักผลผลิตทะลายที่เพิ่มขึ้น  และไม่มีการคัดทะลายคืนกลับจากแหล่งรับซื้อ เนื่องจากเกษตรกรเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมันคุณภาพ  

 

ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานีจะให้ความรู้ทั้งหมดแก่เกษตรกรและมีนักวิชาการลงพื้นที่เก็บข้อมูลเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อนำไปวิเคราะห์คำนวณต้นทุนว่าต้นปาล์มแต่ละต้นใช้ต้นทุนเท่าไหร่  โดยมีตัวอย่างสวนปาล์มน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการปี 2562 คือ นายสัมพันธ์ ฉิมพักดี ข้าราชการครูบำนาญได้ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรชาวสวนปาล์มฯ  ซึ่งจากการเข้าร่วมโครงการทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นตามลำดับจากปี 2562 ได้ผลผลิต 1.20 ตัน/ไร่  ปี 2563 ได้ผลผลิต 2.34 ตัน/ไร่  และปี 2564 ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3.19 ตัน/ไร่  โดยภาพรวมได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปี 2562 กว่า 2 เท่า

 

“ประเด็นสำคัญที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จคือการสร้างการรับรู้และความเข้าใจถึงกลไกธรรมชาติของปาล์มน้ำมันที่มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับผลผลิตทำให้เกษตรกรเข้าใจว่าการให้น้ำและปุ๋ยมีความสัมพันธ์กันและมีผลต่อการให้ผลผลิตอย่างมาก  โดยทะลายปาล์มที่ออกมาจากเกษตรกรภายในโครงการจะเป็นทะลายปาล์มที่มีอัตราการสกัดน้ำมันเพิ่มขึ้น  

 ซึ่งในปีต่อไปมีแผนที่จะขยายผลโครงการการใช้นวัตกรรมปาล์มน้ำมันไปยังสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร           สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา เป้าหมายเกษตรกรรวมจำนวน 200 ราย ครอบคลุมพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันจำนวน 2,000 ไร่   ซึ่งในขณะนี้มีเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวแจ้งความจำนงเข้าร่วมโครงการเกือบครบตามเป้าหมายแล้ว