ยารักษาโควิดตัวใหม่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

ยารักษาโควิดตัวใหม่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

ยารักษาโควิด Monulpiravir มีแนวโน้มจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ข่าวประสิทธิภาพยารักษาโควิดของเมอร์ค (MRK) ที่ให้ผลการทดสอบทางคลีนิคในเฟสที่ 3 ที่ดี

โดยผลการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง 775 ราย มีผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพียง 7.3% (เทียบกับไม่ได้รับยาที่ 14.1%) ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลย ซึ่งผลการทดสอบดังกล่าวอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนเกมส์ที่สำคัญอีกครั้งของการลงทุน เหมือนครั้งที่ข่าวการทดสอบวัคซีนช่วงปลายไตรมาส 3-ต้นไตรมาส 4/63 ช่วยเปลี่ยนภาพมุมมองด้านการลงทุน และเร่งการกลับสู่วิถีชีวิตปกติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การเดินทาง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มถ่านหินและพลังงาน ขณะที่หนุนหุ้นในธีมเปิดเมือง (Re-opening theme) มีแนวโน้มกลับมาถูกผลักดันหรือทยอยสะสม แม้จะยังมีความกังวลถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ของหุ้นบางตัวที่อ่อนแอก็ตาม ปัจจัยลบที่สำคัญของยาน่าจะอยู่ที่ราคาต่อคอร์ส ที่ตกประมาณ 2.4 หมื่นบาท ซึ่งสูงกว่าค่าวัคซีนราว 8-20 เท่า อย่างไรก็ตามการมีทางเลือกในการรักษาที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยต่อการสร้างความมั่นใจในการกลับมาใช้ชีวิต

ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ อาจประกาศว่าจีนไม่ทำตามข้อตกลงทางการค้า CNBC รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่านางแคเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) จะประกาศในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (4 ต.ค.) ว่า จีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก (1 ม.ค.63-31 ธ.ค.64) ที่ทำไว้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จีนจะต้องซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ จนถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 62% ของเป้าหมาย แม้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือมาตรการ แต่เราประเมินว่าด้วยสถานการณ์เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ทำให้การตอบโต้โดยวิธีการขึ้นภาษีไม่น่าจะถูกนำมาใช้ ทำให้แรงกดดันข้อขัดแย้งการค้ารอบนี้น่าจะไม่รุนแรง // สำหรับสถานการณ์หนี้ Evergrande ทางการจีนดำเนินมาตรการในลักษณะล้อมรั้วผลกระทบที่จะลุกลามไปยังตลาดการเงิน 

ทำให้มีแนวโน้มที่รัฐบาลจีนจะปล่อย Evergrande ล้มละลาย ซึ่งอาจกระทบต่อกองทุนหรือผู้ถือตราสารหนี้ของบริษัทได้ โดยทางการสั่งห้ามซื้อขายหุ้นของบริษัทในช่วงเช้าวันนี้

ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP, BANPU 2) การเพิ่มเพดานหนี้เป็น 70% และแผนกู้เงินเพิ่ม จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, TIPH, THRE, BLA 3) หุ้นธีมเปิดเมืองยังน่าสนใจแม้อาจย่อจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผ่อนคลายกทม.ที่น่าจะล่าช้าไปจาก 15 ต.ค. CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA 4) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 5) เก็งกำไรทางเทคนิค WIIK, FORTH, FSMART, TNP, TWPC, NER, HFT, BEC, CPI, TKS, SKN, MAJOR, CPN, ERW

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังอยู่ในแนวโน้มแกว่งลง (sideways down) โดยมีแนวรับ 1,605 และ 1,585 ตามลำดับ โดยจับตากลุ่มพลังงานจะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญขึ้นไปได้เพื่อเปลี่ยนกรอบการเล่นได้หรือไม่? //หุ้นแนะนำ: BANPU*, UVAN*, AJ*, PLANET*

แนวรับ: 1,585-1,605/ แนวต้าน : 1,623-1,630 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

ยุโรปหารือราคาพลังงาน – วันนี้ (4 ต.ค.) รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนจะร่วมหารือกันเกี่ยวกับราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น ที่อาจจะส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง, ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุน และส่งผลกระทบต่อกลุ่มประชาชนที่ยากจนที่สุด

พลังงานทดแทน - ติดตามการประชุมสภาพอากาศโลก UN Climate Change Conference ครั้งที่ 26 ระหว่าง 31 ต.ค.-12 พ.ย.64 ว่าจะมีการผลักดันวาระเกี่ยวกับพลังงานสะอาดในมุม ซึ่งอาจเป็รจิตวิทยาหนุนหุ้นพลงงานทดแทน รถไฟฟ้า ฯลฯ

คลังจ่อลดภาษีโอนบ้าน 5 ล้านบาท หนุนอสังหาฯ - คลังเตรียมต่อเวลาภาษีอสังหาฯ โอน-จดจำนอง 0.01% ออกไปอีกหลังจะสิ้นสุดลงในปีนี้ พน้อมเล็งปรับเพดานสิทธิ์สู่บ้าน 5 ล้านบาท คาดรัฐประกาศภายในสิ้นปีนี้

GULF – จับมือ “สิงเทล” ร่วมลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ระดับอินเตอร์ หลังทิศทางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลโลกเติบโตก้าวกระโดด คาดแผนลงทุนชัดเจนภายในปี 65 ขณะที่แผน COD โรงไฟฟ้า IPP กำลังผลิต 5,300 MW ยังเป็นไปตามเป้า คาดหลังโรงไฟฟ้า GSRC เดินครบ 2,650 MW สร้างรายได้ราว 4 พันล้านบาทต่อปี

ตรึงดีเซล - รัฐบาลเตรียมใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศหาก ราคาน้ำมันดีเซลพื้นฐาน (B10) ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 30 บาท/ลิตร (ปัจจุบันอยู่ที่ 28.29 บาท/ลิตร) ซึ่งอาจสร้างผลลบต่อค่าการตลาดของสถานีบริการน้ำมันและกระทบต่อ OR, BCP, PTG อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวตามการเปิดเมือง น่าจะช่วยหักล้างผลกระทบดังกล่าวได้

ประเด็นติดตาม: -  4 ต.ค.: OPEC meeting / 5 ต.ค.: TH CPI เดือน ก.ย. / 6 ต.ค.: US Oil inventories, EU retail sales เดือน ส.ค. / 8 ต.ค.: US Employment Report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)