PTT - โลกอนาคต (ประจำวันที่ 22 กันยายน 2564)

PTT - โลกอนาคต (ประจำวันที่ 22 กันยายน 2564)

ห่วงโซ่มูลค่า EV จะเป็น S-curve ใหม่ของ PTT การผลิตและการขายจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดของห่วงโซ่ PTT ตั้งเป้าผลิต EV 5.0หมื่นคันต่อปีใน 2025

และจะเพิ่มเป็น 1.5 แสนคันต่อปีหรือส่วนแบ่งตลาด EV ในประเทศ 21% ภายในปี 2030 PTT จะจัดสรรเงินลงทุนเพิ่มขึ้นให้กับห่วงโซ่มูลค่า EV ในอีกสามปีข้างหน้า แม้ว่าผลตอบแทนจะยังไม่ชัดเจน แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 46บาทต่อหุ้น

 

ห่วงโซ่มูลค่า EV จะเป็น S-curve ใหม่ 

PTT ประกาศจัดตั้ง JV กับ Hon Hai Precision Industry ซึ่งเป็นบริษัทลูก Foxconn ในสัดส่วนหุ้น 60:40 และมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 3,220 ล้านบาท และตั้งเป้าที่จะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย โดย Foxconn ได้จัดตั้ง JV กับพันธมิตรในพื้นที่ในสหรัฐฯและยุโรป และร่วมกับ PTT เพื่อสร้างโรงงานลักษณะเดียวกันในไทย ซึ่ง Foxconn สามารถนำเทคโนโลยีจาก JV อื่นมาใช้ในไทยได้ PTT จะเน้นไปที่สี่พื้นที่ของห่วงโซ่มูลค่าของ EV: แบตเตอรี่, รถยนต์, โครงสร้างพื้นฐาน EV, และบริการยานยนต์ ซึ่งจะช่วยให้ห่วงโซ่มูลค่าครบถ้วน PTT ตั้งเป้าผลิต EV 5.0หมื่นคันต่อปีใน 2025 และจะเพิ่มเป็น 1.5 แสนคันต่อปีหรือส่วนแบ่งตลาด EV ในประเทศ 21% ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นแผนที่ดุดันในมุมมองของเรา
 

 

 

 

 

 

 

จัดสรรงบลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ผลตอบแทนยังไม่ชัดเจน 

PTT จัดสรรงบลงทุน US$1.0-2.0พันลบ. ในห่วงโซ่มูลค่า EV และงบจะเพิ่มขึ้นตามแผนการผลิต จากงานศึกษาของ PTT 56% ของมูลค่าตลาด EV อยู่ในส่วนการผลิตและการขาย PTT และ Foxconn จะไม่สร้างแบรนด์ EV เองแต่จะเป็น OEM สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทจะให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อลดช่วงเวลาการออกแบบและต้นทุนการผลิต EV สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ PTT เห็นโอกาสในไทยและ Foxconn มีความเชี่ยวชาญด้านชิปช่วยให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ แต่บริษัทยังไม่เปิดเผยรายชื่อลูกค้า โรงงานผลิตจะเป็นส่วนการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในอีก 3-5 ปีข้างหน้าแต่ผลตอบแทนยังไม่ชัด PTT คาด IRR ที่ 9.5-10.0% โดยมีระยะเวลาคืนทุน 8 ปี 

 

แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย SoTP ที่ 46.0บาทต่อหุ้น

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อตลาด EV แต่สงสัยในโมเดล OEM ซึ่งบริษัท EV ส่วนใหญ่มักจะผลิตเอง การ OEM อาจเหมาะกับผู้ผลิต EV รายเล็ก แต่หากการลงทุนประสบความสำเร็จก็จะเป็น S-curve ใหม่ของ PTT ในการมุ่งหน้าสู่การลดคาร์บอน