Sideways Down (ประจำวันที่ 20 กันยายน 2564)

โดยมีแนวรับลุ้นรีบาวด์ที่ 1610 จุด และ 1595 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน และ 10 สัปดาห์) แนะนำ เก็งกำไรหุ้น ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท TU SUN APURE

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

1. การประชุมเฟดกลางสัปดาห์นี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการส่งสัญญาณลดปริมาณการทำ QE ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น EM (แต่โพลสำรวจผจก.กองทุนโลกเดือน ก.ย. คาดว่าเฟดจะรอจนกว่าปลายปีนี้ในการลดปริมาณ QE)

2. ท่าทีของทางการจีนต่อกรณีผิดนัดชำระหนี้ (Default Risks) ของ บริษัทอสังหาฯ จีน Evergrande ที่ครบกำหนดชำระดอกเบี้ยวันนี้ (ตลาดคาดว่าทางการจีนจะเข้ามา
ช่วยเหลือ ยกเว้นผู้ถือหุ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้น
เอเชีย คลายกังวลต่อวิกฤติ Contagion Effect)

3. ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างทำ Public Hearing เพื่อปรับปรุงดัชนีของตลาด
หลักทรัพย์ฯ และมาตรการดูแลหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวของราคาผิดปกติ โดยที่ไม่มี
ปัจจัยสนับสนุน (-กลุ่มบลูชิพที่มีสภาพคล่องต่า DELTA INTUCH MAKRO BAY)

4. การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลางเดือน ต.ค. ของกทม. คาดว่าจะล่าช้า
ออกไป หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงอยู่ในระดับสูง และรอศบค. อนุมัติ (-กลุ่ม
โรงแรม AWC CENTEL CPN ERW)

5. ผลสำรวจผจก.กองทุนโลกเดือน ก.ย. ของ Bank of America ปรับลดน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้น EM เป็น Underweight ครั้งแรก ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2020

 

 

 

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

- จับตามาตรการแทรกแซงค่าเงินบาทของธปท. หลังเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าสุดรอบ 3 สัปดาห์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ระดับ 33.34 บาท (MTD อ่อนค่า 3.44%)
- โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเปิดซองพิจารณาด้านราคา 150MW วันนี้ ก่อนประกาศชี่อ
ผู้ผ่านพิจารณาในวันที่ 23 ก.ย. (+ACE TPCH CWT SCI UAC NER BRR UAC CV)

- Opportunity Day วันนี้ JR ASIMAR RT SIMAT TQR UBIS

- ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปิดทำการช่วงต้นสัปดาห์: Nikkei (วันจันทร์ Aged Day วันพฤหัสบดี Autumnal Equinox) HSKI (วันพุธวันไหว้พระจันทร์) Shanghai/Taiwan (วันจันทร์และอังคาร เทศกาลไหว้พระจันทร์) KOSPI (วันจันทร์
ถึงพุธ เทศกาลขอบคุณพระเจ้า)

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1617.31-1635.04 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1625.65 จุด -6.05 จุด วอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 1.05 แสนล้านบาท นำลงโดยกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ -1.48% ธนาคาร -1.44% เงินทุนและหลักทรัพย์ -0.72% หุ้นปรับขึ้น >4% ได้แก่ KCE HANA SMART U PPS CCP VNG TIPH ILINK AMA CAZ IMH OTO RICHY KUMWEL หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ VPO STOWER SA SITHAI TAPAC T GEL GLOCON IRCP AJ SDC SAMTEL PRO SCI

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง DJIA -0.48%
(-166.44 จุด) S&P500 -0.91% NASDAQ -0.91% เพราะวิตกต่อเฟดอาจมีการปรับ
ลดวงเงิน QE เร็วขึ้น นโยบายปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลของประธานาธิบดีไบเดน (26.5%
จากปัจจุบัน 21%) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ CAC40 -0.79% DAX -1.03% FTSE
-0.91% เป็นผลจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ส่วนหุ้นกลุ่มเดินทางปรับขึ้นจาก
ข่าวอังกฤษเตรียมผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางทางอากาศ

 

 

 

- น้ำมันและทองคำปิดร่วง: น้ำมันดิบปิดลบ WTI -USD0.64 ปิดที่ USD71.97/บาร์เรล Brent -USD0.33 ปิดที่ USD75.34/บาร์เรล เป็นผลจากการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกที่ฟื้นตัว เริ่มเข้าสู่ระดับการผลิตปกติ ส่วนราคาทองคำร่วงต่อเป็นวันที่สาม
-USD5.30 ปิดที่ USD1,751.40/ออนซ์ จากการกลับมาแข็งค่าของเงิน USD 0.28%
เป็น 93.188
 

ประเด็นสำคัญ

+/- Fund Flow (Weekly): นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นเอเชีย 6 ชาติ ไม่รวมญี่ปุ่น USD1,885mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า –USD156mn) ส่วนตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 (หลังจากขาย 10 สัปดาห์) แต่ด้วยจำนวนลดลง +USD21mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +USD122mn) ส่วนวันศุกร์กลับมาขายสุทธิ -889.41 ล้านบาท สะสม +1.28 พันล้านบาท WTD ซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ซื้อ 4 พันล้านบาท, 9.87 พันล้านบาท และ 1.34 หมื่นล้านบาท แต่เปิดสัญญา Short SET50 Future ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก -153 สัญญา ส่งผลเดือน ก.ย. (MTD) เปิด Short ไปแล้ว -3.08 หมื่นสัญญา

- Quant Analysis: คาดว่าทิศทางดัชนีฯ ในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ มีแนวโน้มปรับลดลง โดยมีความแม่นยำสูงถึง 68% พิจารณาจากความสัมพันธ์ของการเปิด Short SET50 Future ของต่างชาติในช่วงต้นไตรมาส กับทิศทางดัชนีฯ ช่วง 10 วันสุดท้ายของการซื้อขาย ย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TU APURE TPCH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TU APURE SUN

Derivatives: ถือ Short S50U21 รอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)