Sideways - เก็งกำไร MORE SAWAD PSL (13 ก.ย. 64)

Sideways - เก็งกำไร MORE SAWAD PSL (13 ก.ย. 64)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1640 / 1645 จุด แนวรับ 1625 / 1620 จุด ทางเทคนิค หากไม่มีการทำ New High เหนือ 1658 จุด ในเร็ว ๆ นี้

สะท้อนว่าดัชนีฯ จะเลือกเข้าสู่โหมดการปรับฐาน (Sideways หรืออ่อนตัว) โดยมีแนวรับอิง Fibonanci ที่ 1609 / 1585 จุด แนะนำ เก็งกำไร MORE SAWAD PSL ปัจจัยบวก คือ การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ทางโทรศัพท์ปลายสัปดาห์ก่อน ช่วยลดความเสี่ยงของสงครามการค้าในอนาคต ส่วนปัจจัยลบ คือ ศบค.ชุดใหม่ คงมาตรการล็อกดาวน์เช่นเดิมจนถึงวันที่ 30 ก.ย. (ไม่ลดพื้นที่สีแดงเข้มตามที่ศบก.ศบค. เสนอ) ส่งผลลบต่อราคาหุ้นธุรกิจที่คาดหวังว่าจะเปิดเพิ่มเติม เช่น MAJOR SPA และธุรกิจเดินทางท่องเที่ยว AAV BA ERW CENTEL ส่วนปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสนใจยังคงอยู่ที่โอกาสทำ QE Tapering ของการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า (สัปดาห์นี้รอดูตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค. และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์) และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

- มาตรการคุมเข้มจีน: หุ้น DIDI Global วันศุกร์ร่วง-5% หลังจากเจ้าหน้าที่จีน แจ้งบรรดาบริษัทให้บริการรับส่ง ต้องมีการปรับปรุงการจ่ายรายได้และรับประกันเวลาหยุดพักของพนักงาน
- หลักทรัพย์ที่มี Upward Target Price สูงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ZEN PYLON GGC TASCO THCOM AU THG ในทางตรงกันข้ามหลักทรัพย์ที่ถูก Downward Target Price สูงสุด ได้แก่ DMT ECF SINGER BTSGIF SCP SMD PTG

- Opportunity Day วันนี้ BM MOONG TRC SAWAD TKS GVREIT

- XD วันนี้ นำโดย TCAP 1.20 SSPF 0.38 บาท มาตรการคุมเข้มจีน

- APPLE ออกผลิตภัณฑ์ใหม่วันที่ 14 ก.ย. คาดเปิดตัวโทรศัพท์ Iphone 13 และ Smart Watch (ส่งผลบวกต่อผู้จำหน่าย SPVI COM7 CPW )

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก (ปิดบวกเป็นวันที่ 2 ในรอบ 5 วันทาการ): ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1620.58-1639.65 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1635.35 จุด +6.23 จุด วอลุ่มซื้อขาย 9.2 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +2.23% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.35% พาณิชย์ +1.12% เงินทุนและหลักทรัพย์ +1% หุ้นปรับขึ้น >4% ได้แก่ TEAMG MAKRO HANA LHFG PSL MORE SYNEX GEL AS SECURE AF GIFT UBIS MCOT GSC ETE THMUI IND ALLA หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ APURE INSET THCOM KTIS HYDRO RICHY BA AMC

- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ DJIA -0.78% (-271.66 จุด) ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า S&P500 -0.77% NASDAQ -0.87% เพราะตลาดกังวลต่อเฟดอาจเร่งทำ QE Tapering หลังรายงานดัชนีผู้ผลิตพุ่งแรง (PPI เดือน ส.ค. สูงสุดรอบ 11 ปี +8.3% YoY Vs เดือน ก.ค. 7.8% YoY และ Core PPI เดือน ส.ค. สูงสุดตั้งแต่เก็บข้อมูล +6.7% YoY Vs เดือน ก.ค. +6.2% YoY) และการร่วงของหุ้น APPLE -3.3% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ CAC-40 -0.31% DAX -0.09% และ FTSE +0.07% กังวลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยหุ้นกลุ่มปลอดภัย Health Care ช่วยหนุนตลาด

+/- น้ำมันดิบปิดบวก แต่ทองปิดลบ: น้ำมันดิบโลกกลับมาปรับตัวสูงขึ้นรับข่าวสนง.ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ รายงานว่า ผู้ผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก 66.36% ของทั้งหมด ยังคงปิดทำการอยู่ แม้พายุไอด้าผ่านไปแล้ว ส่งผล WTI +USD1.58 ปิดที่ USD69.72/บาร์เรล Brent +USD1.47 ปิดที่ USD72.92/บาร์เรล ส่วนราคาทองคำ กลับมาปิดลบ -USD7.90 ปิดที่ USD1,792.10/ออนซ์ จากการกลับมาแข็งค่าของเงิน USD และปัญหา Geopolitical Risks ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ผ่อนคลายลง

 

 

 

ประเด็นสำคัญ

+/- Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติวานนี้กลับมาซื้อสุทธิ +1.45 พันล้านบาท ทั้งสัปดาห์ซื้อต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 รวม 9.87 พันล้านบาท (2 สัปดาห์ก่อนหน้า ซื้อสะสม +2.32 หมื่นล้านบาท) แต่กลับมาเปิดสัญญา Short SET50 Future ต่อเนื่องอีก -3,737 สัญญา (ส่งผล MTD กลายเป็น Short -5,481 สัญญา)

+/- THAILAND: ศบค.ชุดใหญ่ คงมาตรการล็อกดาวน์เช่นเดิมต่อไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. (ไม่ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มจากเดิม 29 จังหวัด) กังวลผู้ติดเชื้อในประเทศอาจกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง

- Apple: คำสั่งศาลเมื่อวันศุกร์ ระบุว่า แอปเปิลไม่สามารถบังคับบรรดาผู้พัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้ใช้ระบบจ่ายเงินของแอปเปิล เพื่อซื้อสินค้าภายในแอป ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.

- Toyota: ประกาศเมื่อวันเสาร์ ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ประจำปีนี้ (สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2022) 3 แสนคัน เหลือ 9 ล้านคัน เนื่องจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในเวียดนามและมาเลเซีย ชะลอการผลิตหลังได้รับผลกระทบ COVID-19 และขาดแคลนชิป

- Russia: ธนาคารกลางรัสเซียประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 6.75% น้อยกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ +0.5% หลังจากปรับขึ้นในเดือน ก.ค. +1% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังปรับขึ้นเหนือเป้าหมาย 4% (ล่าสุด 6.74%)

+ Geopolitical Risk: จีนเจรจากับสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสฯ และจีนเจรจากับเยอรมนีเมื่อวันเสาร์ เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างประเทศและช่วยลดความเสี่ยงของสงครามการค้าในอนาคต

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: PSL ACE CPW

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: MORE SAWAD PSL

Derivatives: เปิด Short S50U21 เก็งกำไร หลัง 10:30 น. (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)