กอช.เล็งเพิ่มสัดส่วนลงทุน'หุ้น'

กอช.เล็งเพิ่มสัดส่วนลงทุน'หุ้น'

กอช.เล็งเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้น-กองทุนอสังหาริมทรัพย์ หลังเริ่มเห็นทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัว หวังสร้างผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก ขณะ7 เดือนแรกปีนี้ ผลตอบแทนการลงทุน1.14%

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช​.)เปิดเผยว่า กอช.เริ่มมองหาการลงทุนในทรัพย์สินที่จะให้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่าเงินฝาก หลังจากที่เห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว ​โดยตลาดทุนเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนของกอช.

ทั้งนี้ท่ามกลางสถานการณ์โควิด -19 การลงทุนของกอช. ยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเน้นการลงทุนไปที่สินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล เงินฝาก และหุ้นกู้ภาคเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือด้านเครดิตที่ดี

“ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่ทาง กอช. เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นหลายประการ อันบ่งบอกถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้ง นโยบายทางการคลังของรัฐบาลที่พยายามจะกระตุ้นและประคับประคองเศรษฐกิจ”

ดังนั้น สินทรัพย์ที่มีการเติบโตสูงและให้รายได้ที่สม่ำเสมอ อาทิตราสารทุน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จึงมีความน่าสนใจ และเป็นโอกาสที่ กอช. น่าจะเข้าสะสมลงทุนต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุดในช่วง 7 เดือนของปีนี้ หรือถึงสิ้นเดือนก.ค.นี้ กอช.สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้สมาชิกได้ 1.14% ต่อปี ซึ่งยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำกับธนาคารอยู่ที่ 0.59% ต่อปี

ทั้งนี้ เม็ดเงินในพอร์ตของกอช.ทั้งหมด​ ณ​ สิ้นปี​ 2563 ​มี​อยู่7.93พันล้านบาท​ โดย 99.99% เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมี่นคงสูง​ เช่น​ เป็นเงินสด​ และเงินฝากในธนาคาร​ 35.34% เป็นพันธบัตร และตั๋วเงินคลังและพันธบัตรของ​ธนาคารแห่งประเทศไทย​ 29.90%และเป็นตราสารแสดงสิทธิ์ในหนี้ที่ได้มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ​ 23.76%เป็นต้น

สำหรับจำนวนสมาชิก​ ณ​ สิ้นปีที่แล้ว​มีอยู่​ 2.39 ล้านคนในจำนวนนี้เป็นชาย​ 42.15%และหญิง​ 57.85% ทั้งนี้​ กอช.คาดว่า ยังมีแรงงานนอกระบบ​ คือไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม​ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ​ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ​กว่า ​20 ล้านคน​ที่สมารถเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกของกอช.ได้