Commerce Sector (27 ส.ค.64)

แม้ศบค.ตัดสินใจผ่อนคลายข้อบังคับในกทม. เราคาดการฟื้นตัวของผู้บริโภคในไทยจะเริ่มชัดเจนในต.ค. เนื่องจากเราเชื่อว่าอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 30% ในตอนนั้น จะนำไปสู่เปิดเมืองและการฟื้นตัวของการบริโภคอย่างมั่นคง (ท่องเที่ยว, ชอปปิ้ง, ทานอาหารที่ร้าน) คงหุ้นเด่นของกลุ่มเป็น HMPRO (TP 16.5) และ MAKRO (TP 45) จากการฟื้นตัวของกำไรในระยะกลางตั้งแต่ปี 2022 จากธีมการเปิดเมือง, อัพไซด์ และการเร่งตัวระยะสั้นหลังการเปิดเมือง

 

วันศุกร์นี้ ศบค. พิจารณาผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างในกทม.

สธ.และศบค.ชุดเล็กเสนอการผ่อนคลายมาตรการให้คณะกรรมการศบค. ในวันศุกร์ 27 ส.ค. 9:00น. โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1). อนุญาตร้านอาหารพื้นที่ปรับอากาศให้เปิดกิจการได้ 50% และ 75% สำหรับร้านกลางแจ้ง 2). ศูนย์การค้าและร้านสะดวกซื้อเปิดดำเนินงานได้ถึง 20:00, 3). ร้านทำผม, ฟิตเนสและกีฬาในพื้นที่กลางแจ้งดำเนินการได้ตามปกติ 4). อนุญาตการเดินทางข้ามจังหวัด, 5). พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบโดสหรือตรวจ ATK ทุก 3-7 วัน และลูกค้าจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนเข้าร้านอาหาร

 

หากศบค.อนุมัติ คาดการฟื้นตัวจะช้า เนื่องจากสถานการณ์โควิดไม่เอื้อ

แม้จะมีคำสั่งการผ่อนคลายข้อบังคับจากศบค. เราเชื่อว่าการฟื้นตัวของผู้ใช้บริการจะไม่มาก เนื่องจาก 1). จำนวนผู้ติดเชื่อเฉลี่ย 7 วันในกทม.และปริมณฑลยังอยู่ในระดับสูงที่ 8.2พันคนต่อวัน เทียบกับต้นก.ค. (3.4พันคนต่อวัน) และปลายก.ค. (6.9kพันคนต่อวัน) ทีส่งผลให้มีมาตรการเพิ่มขึ้น (จากซื้อกลับบ้านอย่างเดียวใน 28 มิ.ย. จนถึงการปิดศูนย์การค้าในวันที่ 3 ส.ค.), 2). สัดส่วนคนที่ได้รับวัคซีนครบโดสยังต่ำ (ณ 24 ส.ค. คิดเป้น 16% ของกทม.และปริมณฑลและ 20% สำหรับกทม.) ทำให้คนที่ได้รับวัคซีนครบโดสน้อยลงด้วย, 3). ความมั่นใจและสภาพแวดล้อมยังไม่เอื้อจากเหตุผลข้างต้นและความเสี่ยงการติดเชื้อยังสูง

 

มองข้ามการลอคดาวน์; HMPRO และ MAKRO เป็นหุ้นเด่น

แม้เราจะไม่เชื่อว่าการเปิดเมืองในต้นก.ย.จะประสบความสำเร็จ แต่เรามั่นใจว่าการเปิดเมืองอย่างยั่งยืนหรือการฟื้นตัวของอุปสงค์อย่างรวดเร็วจะเกิดในต.ค.เป็นต้นไป จากการส่งมอบวัคซีนจำนวนมากในช่วงเวลานั้น และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบโดสในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะแตะระดับอย่างน้อย 30% เพียงพอสำหรับการเปิดเมืองเบื้องต้น (อ้างอิงการเปิดเมืองในสหราชอาณาจักรใน 17 พ.ค.สำหรับร้านอาหารในร่มและพื้นที่ในอาคารอื่น) อย่างไรก็ตามเราคงมุมมองว่านักลงทุนควรมองข้ามช่วงนี้ไปและมอง 3Q21 เป็นการสะดุดของกำไรระยะสั้น เราคงเลือก HMPRO (TP 16.5) และ MAKRO (TP 45) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มจากการฟื้นตัวของกำไรในระยะกลางจากการเปิดเมืองใน 2022, อัพไซด์ที่มากพอ, และการเร่งตัวระยะสั้นหลังเปิดเมือง