PSH - ซื้อ (17 ส.ค. 64)

PSH - ซื้อ (17 ส.ค. 64)

เรายังมองบวกกับแนวโน้มใน 2H64F

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

Impact

แนวโน้มมีทั้งบวกและลบในสถานการณ์ที่ COVID-19 ระบาดหนักมากขึ้น

จำนวนลูกค้า Walk-in ในเดือนกรกฎาคม 2564 มีทั้งขึ้นและลงในสถานการณ์ที่ COVID-19 ระบาดหนักมากขึ้น โดยจำนวนลูกค้า walk-in ของโครงการคอนโดมิเนียมลดลง 30% YoY ในขณะที่จำนวนลูกค้า walk-in ของโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น 10-20% YoY เราคาดว่าสภาวะตลาดของโครงการแนวราบจะยังคง outperform โครงการคอนโดมิเนียมใน 3Q64F เนื่องจากความนิยมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

สำหรับการเปิดโครงการใหม่ บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการใน 2H64F มูลค่ารวม 1.78 หมื่นล้านบาท (+71% YoY, +102% HoH) ซึ่งยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ แบ่งเป็น i) โครงการแนวราบ 1.46 หมื่นล้านบาท และ ii) คอนโดมิเนียม 3.2 พันล้านบาท

ยืนยันกำหนดโอนเจ็ดโครงการคอนโดมิเนียมใน 2H64F

บริษัทยืนยันกำหนดโอนเจ็ดโครงการคอนโดมิเนียมใน 2H64F (Figure 1 และ Figure 2) ซึ่งปัจจุบันมียอด presales สะสมเฉลี่ย 52% ซึ่งจะทำให้ยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H64F

รายได้จากโรงพยาบาลยังมี upside อีกจากการฉีดวัคซีน Moderna

รายได้จากโรงพยาบาลวิมุติ (เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564) อาจจะสูงถึง 500 ล้านบาทในปี 2564 (ประมาณการในปัจจุบันของเราอยู่ที่ 400 ล้านบาท) จากการให้บริการฉีดวัคซีน Moderna อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะสร้างผลขาดทุนต่อไปอีก 3 ปี (สะท้อนไว้ในประมาณ
การเรียบร้อยแล้ว)

เรายังคงมอบแนวโน้มใน 2H64F เป็นบวก

เรายังคงคาดว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างจริงจังของกำไร PSH ตั้งแต่ 2H64F เป็นต้นไป เนื่องจาก i) ยอดโอนโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการใหม่ และยอด presales โครงการแนวราบที่สะสมมาได้ดี ii) จะมีคอนโดมิเนียมใหม่เจ็ดโครงการที่พร้อมโอนใน 2H64F และ iii) อัตรากำไรขั้นต้น
ของโครงการที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องเพราะมีรายได้จากโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

Valuation & Action

เนื่องจากผลประกอบการน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 15.50 บาท อิงจาก P/E ปี 2565F ที่ 8.6x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว

Risks

ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง