Up and Down (10 ส.ค.64)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ Up and Down แนวต้าน 1545 / 1555 จุด แนวรับ 1535 / 1525 จุด แนะนำ เก็งกำไร PSL EA PTTGC อิงทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณขาขึ้น รูปแบบ Double Bottom หากทะลุผ่าน 1550 จุด ด้วยวอลุ่มหนาแน่น

+ปัจจัยบวก: 1. จำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้หายป่วยออกมามีปริมาณใกล้กันมากขึ้น เป็นผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่ม re-opening play รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคารหรือกลุ่มพลังงาน และยังคงมีโมเมนตัมการเก็งกำไรต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ 2. ต่างชาติเปิดสัญญา Long SET 50 Index Future สุทธิ 3.2 หมื่นสัญญา เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง 3. รายงานผลกำไรที่ดีกว่าคาดของบจ. อาทิ QH PTTGC TU CPN เป็นโมเมนตัมบวกต่อหุ้นตัวอื่นที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโตได้ในไตรมาส 2

-ปัจจัยลบ: 1. ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีทั้งในวันศุกร์และวันจันทร์ที่ผ่านมา สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะส่งสัญญาณการทำ QE Tapering ในงานแจ็กสัน โฮล ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนนี้ ซึ่งจะส่งผล เชิงลบต่อตลาดหุ้นเอเชีย 2. ราคาน้ำมันที่มีความผันผวนสูง จากความกังวลเรื่องผลกระทบต่ออุปสงค์จากสถานการณ์ COVID-19 และที่ประชุม UN เป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

       - Opportunity Day วันนี้: THCOM ADVANC INTUCH FTREIT

       - 2Q21E Earnings Results: คาดประกาศงบวันนี้ TOP IRPC MTC AP LH SPALI WHA KCE AU AWC BJC BPP GFPT PLANB SINGER SPA STGT SQ

       - ผลจากการคาดว่า QE Tapering จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เริ่มส่งผลกระทบต่อการแข็งค่าสูงสุดรอบ 2 เดือน ของ USD และการอ่อนค่าต่ำสุดรอบหลายเดือนของสินค้า โภคภัณฑ์

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่งแรง: ตลาดหุ้นไทยปิดบวกตลอดการซื้อขายกรอบ 1525.29-1543.71 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1540.19 จุด +18.47 จุด +1.21% วอลุ่มซื้อขาย 6.99 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +3.05% ธนาคาร +2.74% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +1.92% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.75% หุ้นปรับขึ้น >4% ได้แก่ AOT AS UKEM BROOK BPP CPW CENTEL THCOM SDC KOOL DEMCO FVC THRE NWR หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ 7UP PSL SPRC SUN MGT TM QTC RPH ILINK TEAM PROEN

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก DJIA -0.30% (-106.66 จุด) S&P500 -0.09% Nasdaq +0.16% เป็นผลจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการร่วงของราคาน้ำมันดิบโลก เพราะกังวลต่อผลกระทบของการแพร่ระบาด COVID-19 แต่มีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวขึ้นตามบอนด์ยิลด์ หลังข้อมูลการจ้างงานออกมาดีกว่าคาด และหุ้นกลุ่มเทคฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกทำสถิติสูงสุดใหม่ CAC40 -0.06% DAX -0.10% และ FTSE100 +0.13% เนื่องจากการปรับตัวลงของหุ้นพลังงานเช่นกัน ในขณะที่กลุ่มเทคฯ และกลุ่มการบริโภค ปรับตัวสูงขึ้น

- ราคาน้ำมันและทองคำปิดลบ: ราคาน้ำมันดิบโลกปิดลบ WTI -USD1.8 ปิดที่ USD66.48 /บาร์เรล Brent -USD1.66 ปิดที่ USD69.04/บาร์เรล เป็นผลจากวิตกไวรัสสายพันธุ์เดลตา ตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบของจีนลดลงในเดือน ก.ค. และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ส่วนราคาทองคำปิดดิ่งแรง -USD36.60 ปิดที่ USD1,726.50/ออนซ์ ระหว่างการซื้อขายลงไปทำจุดต่ำสุดที่ USD1,677/ออนซ์ จากความคาดหมายที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น

ประเด็นสำคัญ

- INTUCH: MSCI และ FTSE ประกาศลดน้ำหนัก INTUCH ระหว่างกาล จาก Free Float ที่ลดลง เนื่องจากการทำ Tender Offer ของ GULF มีผลต่อราคาปิดวันนี้ (คาดมีแรงขาย –USD69.33mn และ –USD51mn ตามลำดับ)

+/- จีน: ดัชนีเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ต่ำสุดรอบ 3 เดือน ที่ 1% YoY (Vs เดือน มิ.ย. 1% YoY) จากหมวดอาหาร -3.7% YoY แต่ดัชนีผู้ผลิตเดือน ก.ค. ปรับสูงขึ้นเป็นเดือนที่เจ็ด +9% YoY (Vs เดือน มิ.ย. 8.8% YoY) เพราะการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอากาศผิดปกติ

- Commodity: การกังวลต่อการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายการเงินของเฟด เริ่มส่งผลลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง นำโดยทองคำ เงิน ทองแดง แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่สิ้นเดือน มี.ค. ที่ USD1,684/ออนซ์ ต่ำสุดรอบ 8 เดือน ที่ USD22.5/ออนซ์ และต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. ที่ต่ำกว่า USD4.3/ปอนด์

- สหรัฐฯ: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานพุ่งขึ้น 590,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่ง ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.27 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 9.50 ล้านตำแหน่ง ในเดือน พ.ค.

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: RCL XO CHG

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: PSL EA PTTGC

Derivatives: แนะรอเปิด Long S50U21 เมื่ออ่อนตัว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)