Bank Sector (2 ส.ค. 64)

Event

ผลประกอบการ 2Q64 และแนวโน้ม

กำไรสุทธิ -9% QoQ แต่ +54%YoY ใน 2Q64 และ +24% ใน 1H64

กำไรสุทธิรวมของกลุ่มธนาคาร (ไม่รวม BAY) ดีกว่าประมาณการของเรา 9% และดีกว่า consensus 3% เนื่องจากกำไรจากตีมูลค่าเงินลงทุนและสินทรัพย์ทางการเงิน (FVTPL) สูงเกินคาด โดยผลการดำเนินงานสำคัญของกลุ่มคือ 1.) ส่วนต่างดบ. (NIM) มีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง: โดย KBANK, KTB, TISCO เพิ่มขึ้น แต่ BBL และ KKP ลดลง ในขณะที่ TTB และ SCB ทรงตัว 2.) มุมมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจทำให้ KTB, BBL, SCB หันไปเพิ่มสินทรัพย์ yield ต่ำในตลาดเงิน ในขณะที่มีเพียง KBANK และ KKP เน้นขยายสินเชื่ออย่างเป็นขึ้น ส่วนสินเชื่อของ TISCO และ TTB ยังคงหดตัวลงต่อเนื่อง 3.) รายได้ค่าธรรมเนียมของทุกธนาคารเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าเกินคาดเนื่องจากค่าธรรมเนียมกองทุน 4.) มีการเน้นลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและ 5.) NPL เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยทั้ง QoQ และ YTD ซึ่งเป็นทิศทางเช่นเดียวกับตัวเลขหนี้าที่เข้าโครงการผ่อนผันหนี้ ส่งผลให้คชจ.สำรองของ KTB, SCB, TTB ทรงตัว ในขณะที่ของ TISCO ลดลง แต่ของ KBANK, KKP, BBL เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต

รายได้ชะลอตัวใน 2Q64 และจะถูกกดดันต่อเนื่องในไตรมาสถัดไป

ถึงแม้ว่าผลประกอบการใน 2Q64 จะออกมาดีเกินคาด แต่กำไรจากธุรกิจหลักยังต่ำกว่าประมาณการของเราประมาณ 2-3% เนื่องจากค่าธรรมเนียม AM, ธุรกิจ wealth management และค่าธรรมเนียมธุรกรรมธนาคารหลักต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะ SCB, TMB และ TISCO ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะอ่อนแอลงใน 3Q64 เราจึงมองว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมมีแนวโน้มจะลดลงไปอีก ในขณะเดียวกัน การที่ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าสินเชื่อจะขยายตัวในอัตราที่ลดลงใน 2H64 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันรายได้ใน 2H64

NPL เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

ถึงแม้ว่า COVID-19 จะกลับมาระบาดระลอกสามมาตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว แต่ NPL เพิ่มขึ้นเพียง +2% QoQ, +4% YTD , 7% YoY โดย NPL ของธนาคารใหญ่เพิ่มขึ้น 2% QoQ ในขณะที่ของธนาคารเล็กเพิ่มขึ้น 6-10% ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับยอดหนี้ที่เข้าร่วมโครงการผ่อนผันหนี้ ทั้งนี้ NPL จากสินเชื่อ H/P ของทุกธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดย NPL ของธนาคารขนาดเล็กเพิ่มขึ้นสูงกว่าของธนาคารใหญ่ ส่วนค่าใช้จ่ายในการกันสำรองยังคงเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง ยกเว้น BBL และ KBANK ที่เพิ่มขึ้นมาก

ยอดหนี้ในโครงการผ่อนผันหนี้ทรงตัว

ยอดหนี้ที่เข้าร่วมโครงการผ่อนผันหนี้ใน 2Q64 ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยสัดหนี้ดังกล่าวของ SCB อยู่ที่ 16% ของสินเชื่อรวม (ลดลงจาก 19% ใน 1Q64), BBL ลดเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 10-13% ของสินเชื่อรวม, TTB อยู่ที่ 15% (เท่าเดิม), KBANK อยู่ที่ 14% (เท่าเดิม), KKP อยู่ที่ 13% (เพิ่มขึ้นจาก 9%), TISCO อยู่ที่ 3.4% (เพิ่มขึ้นจาก 2.8%)

Risks

NPL และยอดกันสำรองเพิ่มขึ้น, หนี้ที่ได้รับการผ่อนผันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ, รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง