TRUE - ขาย (17 พ.ค.64)

TRUE - ขาย (17 พ.ค.64)

ผลประกอบการ 1Q64: ขาดทุนหลักตามคาด

Event

TRUE ขาดทุนสุทธิ 581 ล้านบาทใน 1Q64 (รวมรายการพิเศษ 376 ล้านบาท) จากที่ขาดทุนสุทธิ 160 ล้านบาทใน 1Q63 และ ขาดทุนสุทธิ 161 ล้านบาทใน 4Q63 ทั้งนี้ ผลประกอบการในไตรมาสแรกดีกว่าประมาณการของเราที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 916 ล้านบาท แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด

lmpact

ผลประกอบการหลักแย่ลงทั้ง QoQ และ YoY

หากไม่รวมรายการพิเศษ (ประหยัดค่าเสื่อมราคาไป 347 ล้านบาทเนื่องจาก TRUE ยืดระยะอายุการใช้งานอุปกรณ์มัลติมีเดีย ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 137 ล้านบาท และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน 166 ล้านบาท) ผลขาดทุนหลักจะอยู่ที่ 957 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเรา แต่แย่ลงจาก 1Q63 และ 4Q63 ซึ่งมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 827 ล้านบาท และ 335 ล้านบาทตามลำดับ ทั้งนี้ผลประกอบการที่แย่ลง QoQ เป็นเพราะรายได้ลดลง 3% QoQ เหลือ 3.54 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรายได้จากธุรกิจบริการทรงตัว ในขณะที่ยอดขายเครื่องมือถือลดลง 10% QoQ ส่วนผลประกอบการที่แย่
ลง YoY เป็นเพราะค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2% YoY

แนวโน้มยังดูไม่สดใสใน 2Q64

เรามองว่าผลประกอบการใน 2Q64 ยังดูไม่สดใสโดยคาดว่าผลประกอบการจะแย่ลงทั้ง QoQ และ YoY เราคาดว่า True Move H (ธุรกิจหลัก) จะถูกกดดันจากการที่จำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจะต่ำลง และ ARPU ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากลูกค้าแบบเติมเงิน ในช่วงที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสาม
ในประเทศไทยซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงกว่าระลอกสองใน 1Q64 นอกจากนี้รายได้จากธุรกิจทีวีแบบบอกรับสมาชิก (True vision) ยังลดลงจากทั้งยอดโฆษณาที่ลดลง และ กิจกรรมทางการตลาดที่ต่ำในช่วงที่ COVID-19 ระบาด

คงประมาณปี 2564-65 เอาไว้ตามเดิม

เรายังคงประมาณการผลขาดทุนหลักปี 2564 เอาไว้ที่ 3.7 พันล้านบาท เนื่องจากผลขาดทุนจากธุรกิจหลักใน 1Q64 คิดเป็น 25% ของประมาณการปีนี้ของเรา อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผลขาดทุนจากธุรกิจหลักจะลดลงเหลือ 3.0 พันล้านบาทในปี 2565 เนื่องจากคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น เรายังคงเป็นห่วงสถานะการเงินของบริษัทในปี 2564 ซึ่งจะยังคงอ่อนแอเนื่องจากมีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยก้อนใหญ่ ในขณะที่ส่วนทุนจะลดลงตามผลขาดทุนที่เกิดขึ้น

Valuation & Action

เรายังคงราคาเป้าหมายของ TRUE เอาไว้ที่ 3.50 บาท และยังคงคำแนะนำ ขาย เนื่องจากคาดว่าบริษัทจะยังคงมีผลขาดทุนต่อเนื่องในปี 2564-65 ประกอบกับสถานะทางการเงินที่อ่อนแอ

Risks

รายได้ต่ำเกินคาด และการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น