MAKRO - ซื้อ (10 พ.ค.64)

เราคาดกำไร MAKRO ที่ 1.6พันลบ. (-3% yoy) ประเด็นกดดัน yoy เป็นผลจากอัตรา EBIT ลดลงสู่ 4% (-20 bps yoy) จาก SSSg ลดลง -2% yoy (กดดันจากฐานสูงจากภาคท่องเที่ยวและการตุนอาหารมี.ค.ปีที่แล้ว) และต้นที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานร้านค้าใหม่และการลงทุน ใน O2O ทำให้ SG&A ต่อยอดขายอยู่ที่ 8.2% (+41 bps yoy) คงคำแนะนำ ซื้อ จาก valuation ที่ไม่แพง ที่ 24.6x FY21F (-1 SD) PE

 

คาดกำไร 1Q21F ที่ 1.6พันลบ. (-3% YoY) จาก SSSg ลดลงจากฐานที่สูง

ปัจจัยสำคัญกดดันกำไรลดลง yoy 1). ฐานที่สูงใน 1Q20 SSSg จากสองเดือน (ม.ค. -ก.พ.) ที่ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวและการตุนสินค้าในมี.ค.ก่อนลอคดาวน์กดดัน และ 2). การลงทุนระบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) และต้นทุนดำเนินงานร้านค้าใหม่ ทำให้ SG&A ต่อยอดขายยังสูงที่ 8.2% และกดดันอัตรา EBIT 1Q21 สู่ 4% (-20 bps YoY)

 

ยอดขายลดลงจากลูกค้า HoReCa และฐานที่สูงจากการตุนสินค้า

เราคาดรายได้ที่ 5.56หมื่นลบ. (-1% yoy, -2% qoq) แรงกดดัน yoy มาจาก SSSg ที่อ่อนแอที่ -2% โดยได้รับผลกระทบเชิงลบจาก 1). ฐานที่สูงจากลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง (HoReCa) จากกิจกรรมท่องเที่ยวที่ยังดำเนินอยู่ในช่วงม.ค. – ก.พ. ในปีที่แล้ว ส่วนในม.ค. 21 ได้รับผลกระทบจากการระบาด COVID-19 ระลอกสอง และการฟื้นตัวในก.พ. ไม่สามารถชดเชยการลดลงได้ และ 2). ยอดขายในช่วงการตุนสินค้าก่อนการบังคับใช้มาตรการลอคดาวน์ใน 22 มี.ค. 20

 

ซื้อ จาก valuation ที่ไม่แพง ได้ประโยชน์จากกระแสเดลิเวอรี่

แม้กำไร 1Q21F ยังไม่มีประเด็นตื่นเต้น แต่ SSSg ในเม.ษ. MAKRO อยู่ในระดับเลขหลักเดียวสูง เนื่องจากส่วนที่ไม่ใช่อาหารยังสามารถดำเนินการได้เทียบกับปีที่แล้วที่ดำเนินงานไม่ได้ ขณะที่ผลกระทบการระบาดระลอก 3  ต่อ MAKRO อาจทำให้ความคาดหวังของเราต่อ SSSg ในพ.ค.น้อยลง และอาจยืดไปจนถึงต้นมิ.ย.หากสถานการณ์ยังคงแย่ลง เราเชื่อว่านี่เป็นการสะดุดในระยะสั้นของยอดขายในไทย โดยเฉพาะในส่วนลูกค้า HoReCa (ประมาณ 30%) หากมองต่อไปข้างหน้า เราเชื่อว่าฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ MAKRO, สัดส่วนยอดขายจากอาหารที่สูง และจำนวนผู้ให้บริการอาหารรายเล็กในแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนให้กับบริษัท ดังนั้นเราคงคำแนะนำ ซื้อจากอัพไซด์สูงราคาเป้าหมายของเรา รวมถึง valuation ที่ไม่แพงที่ 24.6x FY21F (-1SD) PE