เกษตรกรแห่ร่วมโครงการเงินกู้ดินปุ๋ย-แปลงใหญ่

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ซึ่งเป็นโครงการแก้ไข ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนเกษตรกรอย่างยั่งยืน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน ระบุ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรรับผิดชอบดำเนินโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) และโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ซึ่งเป็นโครงการแก้ไข ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนเกษตรกรอย่างยั่งยืน

ล่าสุดโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน สามารถดำเนินการในภาพรวมได้แล้วถึง 62.35% และโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด มีเกษตรกรสนใจและแจ้งเข้าร่วมโครงการแล้วถึงจำนวน 3,448 แปลง หรือ 66%

ด้านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง ระบุ โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชนเป็นโครงการที่ดำเนินการผ่านศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ตามความต้องการของเกษตรกร จึงมี ศดปช. สมัครเข้าร่วมโครงการมากถึง 394 ศูนย์ ใน 63 จังหวัด โครงการนี้จะช่วยเกษตรกรลดภาระต้นทุนปุ๋ยเคมีลงได้จากการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยภาครัฐสนับสนุนชุดตรวจวิเคราะห์ดิน แม่ปุ๋ย N P K และเครื่องผสมปุ๋ย ให้แก่ศดปช.ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน คำแนะนำการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยเบื้องต้น จัดหาปุ๋ยคุณภาพดีให้แก่สมาชิก ศดปช. กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ และเกษตรกรทั่วไป

คาดว่าโครงการนี้จะทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีได้เฉลี่ย 20% คิดเป็นมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท ผลผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% และปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีของเกษตรกรเป้าหมายในพื้นที่ 1.6 ล้านไร่ ลดลงจากประมาณ 90,000 ตัน เหลือประมาณ 72,000 ตัน

ส่วนโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด มติ ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด จำนวน 5,250 แปลง โดยมีเงื่อนไขกลุ่มแปลงใหญ่ที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณต้องจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ประเภทนิติบุคคล ล่าสุดมีเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่แจ้งเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดภายในกรอบเวลา จำนวน 3,448 แปลง หรือ 66% โดยจดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว จำนวน 2,812 แปลง อยู่ระหว่างจดทะเบียนนิติบุคคลอีกจำนวน 636 แปลง

ส่วนกลุ่มแปลงใหญ่อีก 1,802 แปลง ที่ยังไม่พร้อมเข้าร่วมโครงการตามเงื่อนไขดังกล่าว หน่วยงานเจ้าของสินค้าแปลงใหญ่จะเดินหน้าพัฒนาเพื่อปรับปรุงศักยภาพของกลุ่มแปลงใหญ่ต่อไป ทั้งการเชื่อมโยงให้เป็นเครือข่ายกับกลุ่มแปลงใหญ่มีความก้าวหน้าเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และส่งเสริมความเข้มแข็งให้กันและกัน พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมให้กับผู้จัดการแปลงในการวิเคราะห์ และจัดทำแผนของกลุ่มแปลงใหญ่ เพื่อรองรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้นโยบายเร่งรัดให้คณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาอนุมัติแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของกลุ่มแปลงใหญ่ให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2564 เพื่อเบิกจ่ายเงินให้กลุ่มไปจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือในการพัฒนากิจการของกลุ่มตามแผนให้บรลุเป้าหมายต่อไปโดยเร็ว