KCE - ขาย

KCE - ขาย

ประมาณการ 1Q64: กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

Event

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ KCE ใน 1Q64 จะอยู่ที่ 340 ล้านบาท (-2% YoY, -19% QoQ) โดยกำไรที่ลดลงจะเป็นเพราะยอดขายลดลงจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์หยุดการผลิตในช่วงที่เกิดปัญหาขาดแคลน chip, อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น, และราคาทองแดงสูงเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q64 คิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

lmpact

ยอดขายลดลง QoQ

เราคาดว่ายอดขายของ KCE ใน 1Q64 จะอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (-2% YoY, -6% QoQ) แต่หากไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายใน 1Q64 จะอยู่ที่ 106 ล้านดอลลาร์ฯ (+1% YoY, -5% QoQ) คิดเป็น 24% ของประมาณการยอดขายปีนี้ของเราที่ 448 ล้านดอลลาร์ฯ โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะฐานที่ต่ำใน 1Q63 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการ lockdown ทั่วโลกเพื่อคุม COVID-19 ส่วนยอดขายที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะผลจากปัจจัยฤดูกาล และการที่ผู้ผลิตรถหยุดการผลิตเนื่องจากปัญหาขาดแคลน chip

อัตรากำไรขั้นต้นโดนบีบ

ราคาทองแดงเฉลี่ยใน 1Q64 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ US$8,500/ton (+50% YoY, +18% QoQ) ในขณะเดียวกัน อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยใน 1Q64 ก็อยู่ที่ 30.20 บาท/ดอลลาร์ฯ จาก 31.10 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 1Q63 และ 30.50 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 4Q63 นอกจากนี้ ยอดขายที่ลดลงก็ทำให้การประหยัดต่อขนาดลดลงด้วย ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ KCE ใน 1Q64 จะอยู่ที่ 23.8% (-0.2ppts YoY, -0.4ppts QoQ) จากสมมติฐานปี 2564 ของเราที่ 24.0% ทั้งนี้ เราคาดว่าบริษัทจะใช้มาตรการคุมต้นทุน ทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายใน 1Q64 อยู่ที่ 13% (จาก 13.2% ใน 1Q63 และสมมติฐานปีนี้ที่ 12.7%)

Valuation & Action

จากฐานยอดขายที่ต่ำใน 2Q63-3Q63 ในช่วงที่มีการ lockdown ทั่วโลก เราจึงคาดว่ายอดขายและกำไรของ KCE น่าจะโต YoY ใน 2Q64-3Q64 ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ช่วยหนุนราคาหุ้น KCE ทั้งนี้ เราใช้สมมติฐานยอดขายปี 2564-65 ที่ค่อนข้างบวก โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2564 และ 10% ในปี 2565 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าของผู้บริหาร ในขณะที่ใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564 ที่ 24% และปี 2565 ที่ 25% ซึ่งจะทำให้กำไรปี 2564 โต 40% และปี 2565 โต 21% อย่างไรก็ตามราคาปิดล่าสุดไม่เหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ของเราที่ 48.00 บาท อิงจาก PER ที่ 33.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.5 S.D.) โดยราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น PER ที่สูงถึง 46x ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ขาย"

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2564-65 ที่ 29.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)