PTG - ซื้อ

PTG - ซื้อ

รอโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ

Event

ปรับประมาณการกำไรปี 2564/65 และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นอีก หลังจากได้ข้อมูลเชิงบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์

Impact

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564/65F ขึ้นอีก 6%/5%

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ขึ้นอีก 6% เป็น 2.0 พันล้านบาท และปี 2565 ขึ้นอีก 5% เป็น 2.3 พันล้านบาท เนื่องจากเราปรับเพิ่มประมาณการรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันขึ้นอีก ผู้บริหารบอกว่ารายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันในปีนี้น่าจะโตได้ประมาณ 20-30% YoY เนื่องจาก i) ยอดขายสินค้าของร้าน Max Mart และกาแฟพันธุ์ไทยเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวขึ้น, ii) จะขยายสถานีบริการ LPG ใหม่อีก 50 สถานี และ iii) การเข้าซื้อหุ้น 38.26% ใน Siam Autobacs (SAB) ซึ่งทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ PTG เพิ่มเป็น 76.52% ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มประมาณการรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันปี 2564 ขึ้นอีก 4% เป็น 5.1 พันล้านบาท และปี 2565 ขึ้นอีก 5% เป็น 5.6 พันล้านบาท นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันของบริษัทรายงานออกมายังอยู่ในระดับสูงที่ 28.6% ในปี 2563 ใกล้เคียงกับ 29.2% ในปี 2562 ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันปี 2564-65 ขึ้นจากสมมติฐานเดิมที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมที่ 26.5% เป็น 28.5% ในขณะเดียวกันเรายังคงประมาณการอัตราการเติบโตของปริมาณยอดขายปีนี้เอาไว้ที่ 8% YoY เป็น 5,359 ล้านลิตร สอดคล้องกับเป้าของผู้บริหารที่ 8-12%

รอใบอนุญาต PPA ของโรงไฟฟ้าขยะแห่งใหม่ในกลางปีนี้

บริษัทกำลังเตรียมยื่นขอใบอนุญาตโรงไฟฟ้าขยะกำลังการผลิต 6MW และใบอนุญาต PPA 4.5MW จากกระทรวงพลังงานในกลางปี 2564 หลังจากที่บริษัทผ่านเกณฑ์เบื้องต้นจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้งบ CAPEX เพื่อลงทุนในโครงการนี้ประมาณ 1.0 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง
นาน 18 เดือน นอกจากนี้ เราคาดว่ารายได้จากโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะอยู่ที่ปีละประมาณ 200 ล้านบาท อิงจาก สมมติฐานว่า i) ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณปีละ 35,000 หน่วย และ ii) ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 5.70 บาท/หน่วย แต่อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้รวมมูลค่าของโครงการโรงไฟฟ้าขยะนี้เข้าไว้ในประมาณการของเรา

Valuation & Action

เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 21.20 บาท โดยอิงจาก P/E ที่ 20.0x เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 19.0x เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไร เราเชื่อว่า P/E ที่ 20.0x (เท่ากับ forward P/E ปี 2564 ของหุ้นสถานีบริการน้ำมัน +0.5 S.D.) เป็นระดับที่เหมาะสมกับ PTG ในฐานะที่เป็นอันดับสองของประเทศไทยในแง่ปริมาณยอดขายปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมัน นอกจากนี้ ยังคงคำแนะนำ ซื้อ PTG เนื่องจากเรามองไปข้างหน้าถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างเช่น ธุรกิจกัญชงปลายน้ำที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพใน 2Q64 และใบอนุญาต PPA ของโรงไฟฟ้าขยะแห่งใหม่
กำลังการผลิต 6MW ในกลางปี 2564 นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะยื่นไฟลิ่งเพื่อนำธุรกิจ LPG เข้าตลาดใน 4Q64 และตามด้วยธุรกิจไบโอดีเซลใน 1H65

Risks

ความผันผวนของค่าการตลาดน้ำมัน, ราคา CPO และ margin ของ B100 รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การบังคับใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานในประเทศไทย