ความเสี่ยงปรับฐานระยะสั้นเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองเชิงบวกระยะกลาง

ความเสี่ยงปรับฐานระยะสั้นเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองเชิงบวกระยะกลาง

ศบค.ต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน อนุมัติผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ

หลังสถานการณ์ระบาดโดยรวมมีทิศทางปรับดีขึ้น โดยยังคงมาตรการเข้มข้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดอย่างสมุทรสาคร แต่ผ่อนคลายทางเศรษฐกิจมากขึ้นในพื้นที่ควบคุม 8 จังหวัด (สีส้ม) ได้แก่ การอนุมัติให้เปิดร้านอาหารได้ถึง 23.00 น., อนุมัติให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์, เปิดศูนย์การค้าได้ตามปกติ (จากเดิมไม่เกิน 21.00 น.), เปิดเรียนสถานศึกษาทุกระดับ ขณะที่สถานออกกำลังการเปิดบริการได้ แต่จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ ซึ่งการผ่อนคลายดังกล่าวคาดเป็นปัจจัยบวกกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

โครงการโซลาร์ทบ. 30,000MW คาดเกิดจริงไม่ง่าย ด้วยเหตุผลหลายประการได้แก่ 1) ปัจจุบันกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศอยู่ที่ 4.5 หมื่นเมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตสำรองสูงถึงราว 50% 2) พื้นที่สำหรับการดำเนินโครงการที่น่าจะต้องสูงถึงกว่า 600,000 ไร่ 3) โครงการดังกล่าวไม่เคบมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และไม่เคยอยู่ในแผนผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ดังนั้นเราคาดการผลักดันโครงการดังกล่าวแม้อาจจะเป็นบวกทางจิตวิทยากับหุ้นที่มีโอกาสเข้าร่วม แต่การเกิดขึ้นจริงไม่ง่าย และอาจเกิดได้จริงในระดับเพียง 300-1,000MW ทั้งนี้เรายังให้ความสนใจกับการประมูลไฟฟ้าชุน 150MW ที่จะยื่นซอง 22 มี.ค.-30 เม.ย.มากกว่า โดยมีหุ้นที่มีข่าวหรือคาดยื่นซองในปัจจุบัน ได้แก่ PTG, NER, ETC และ ACE  

ตลาดเลือกเก็งกำไรรายตัว โดยธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กัญชง และกัญชา บวกต่อ DOD, SAPPE, TIPCO, MALEE, STA, PTG 2) ค่าระวางเรือ เราชอบ TTA, PSL 3) กลุ่มอาหารและราคาสินค้าเกษตร อาทิ น้ำตาลปรับขึ้นทำ new high ในรอบกว่า 1 ปี บวกต่อจิตวิทยาหุ้นน้ำตาล อย่างไรก็ตาม การเก็งกำไรควรระมัดระวังความเสี่ยงของพ.ร.บ.อ้อนและน้ำตาลฉบับใหม่ รวมทั้งผลประกอบการปีนี้ที่ยังอ่อนแอจากผลผลิตที่ต่ำสุดในรอบหลายปี เราชอบ CPF  4) กลุ่มท่องเที่ยว-ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back อาจส่งผลบวกต่อการบริหารสภาพคล่องและการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน ซึ่งในกลุ่มนี้ เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, AWC, MINT, CPN, BDMS 5) ไฟฟ้าชุมชน ยื่นซอง 22 มี.ค.-2 เม.ย. เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE

ภาพรวมกลยุทธ์ ตลาดมีแนวรับที่ 1,468 จุด ซึ่งหากหลุดระดับดังกล่าวจะทำให้ความเสี่ยงพักฐานอาจลึกถึงระดับ 1,350-1,400 จุด อย่างไรก็ตามภาพระยะกลางยังคงมุมมองเชิงบวก โดยช่วงสั้นเน้นการเก็งกำไรรายตัว และระวังแรงขายทำกำไรในกลุ่มที่ปรับขึ้นมาก// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF*, CENTEL*, ETC*

แนวรับ 1,502/ แนวต้าน : 1,528-1,550 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

สินเชื่อแบงก์พาณิชย์ ธปท.เปิดเผยผลการดำเนินงานแบงก์พาณิชย์ปี 63 พบว่าภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อขยายตัว 5.1% โดยสินเชื่อธุรกิจ (64.2% ของสินเชื่อรวม) โต 5.4% จากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขณะที่สินเชื่อ SMEs1 หดตัวลงจากผลของมาตรการ soft loan สินเชื่ออุปโภคบริโภค (35.8% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวที่ 4.6% ด้าน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.12% ต่อเสินเชื่อรวม

FTSE Rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย นำโดย PTT TMB SCC CPALL และ AOT มีผล 19 มี.ค. นี้ ขณะที่ด้าน MSCI Rebalance ปรับลดน้ำหนักเช่นกัน มีผล 25 ก.พ. นี้

แอร์เอเชีย คาดแผนระดมทุนจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุมัติเงินกู้ที่ได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาลภายในเดือนหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายในการระดมทุน 2,500 ล้านริงกิต (618.51 ล้านดอลลาร์) จากเงินกู้และจากนักลงทุน เชื่อฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ภายใน 2 ปี

อินเดียชะลอส่งออกวัคซีน สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) ได้รับคำสั่งให้ชะลอการจัดส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไปยังต่างประเทศก่อน เพื่อให้มีปริมาณวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนในประเทศ

ประเด็นติดตาม: - 23 ก.พ. : สุนทรพจน์ประธานเฟด, US consumer confidence เดือน ก.พ. // 25 ก.พ. : US GDP 4Q20, US initial jobless claims, TH Industrial production เดือน ม.ค., รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ม.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)