BANPU

BANPU

ฤดูหนาวกำลังจะมา

Event

ปรับประมาณการปีนี้และปีหน้า รวมถึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย

Impact

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563F ลง แต่ปรับเพิ่มประมาณการปี 2564F ขึ้น

เราปรับลดประมาณการปี 2563 จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 985 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะต่ำกว่าประมาณการเดิม 1.7 พันล้านบาทโดยนักวิเคราะห์กลุ่มสาธารณูปโภคของ KGI ซึ่งดูแลหุ้น Banpu Power (BPP.BK/BPP TB)* ได้ปรับลด
ประมาณการรายได้ equity income ของ BPP ลดลงเนื่องจาก i) ปรับลด EAF ของโรงไฟฟ้าหงสาในปี 2563 ลงจาก 85% เหลือ 81%, ii) รับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก Banpu Next (คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน) และ iii) ผลขาดทุนในปีแรกของโรงไฟฟ้ า SLG โรงใหม่ นอกจากนี้ เรายังปรับลดประมาณการปริมาณยอดขายถ่านหินรวมลงปีละ 2.0 ล้านตัน เป็น 35.0 ล้านตันในปี 2563 และ 37.0 ล้านตันในปี 2564 ตามเป้าล่าสุดของบริษัทในปีนี้ที่คาดว่าปริมาณยอดขายจากเหมืองในอินโดนีเซียจะอยู่ที่ 22.0 ล้านตัน และในออสเตรเลียที่ 13.0 ล้านตัน แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงใช้สมมติฐานราคาถ่านหิน
อ้างอิง NEX ปี 2563 ที่ US$60/ton แต่ปรับเพิ่มสมมติฐานปี 2564 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ US$65/ton เป็น US$75/ton หลังจากที่ราคาถ่านหินพุ่งขึ้นถึง 31% QoQ เป็น US$64/ton ใน 4Q63 และปิดสิ้นปีที่ประมาณ US$84/ton เนื่องจาก i) อุปสงค์ตามฤดูกาลในช่วงฤดูหนาว, ii) เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวจากวิกฤติ COVID-19 และ iii) แรงงานในเหมืองถ่านหินที่โคลัมเบียมีการหยุดงานประท้วงในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นอีก 83% เป็น 5.6 พันล้านบาท

คาดว่าผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q63

เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักของ BANPU จะพุ่งขึ้น QoQ ใน 4Q63 เนื่องจากราคาถ่านหิน NEX เพิ่มขึ้นเป็น US$64/ton (+31% QoQ) เรายังคาดว่าปริมาณยอดขายรวมจะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจาก การผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีฝนตกในอินโดนีเซีย และไม่มีการย้าย Longwall ที่แหล่ง Springvale ในออสเตรเลียใน 4Q63 นอกจากนี้ เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะเพิ่มขึ้น QoQ หลังจากที่โรงไฟฟ้าหงสาไม่มีการปิดซ่อมบำรุง และประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้นใน 4Q63 แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนก้อนใหญ่ จากที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 621 ล้านบาทใน 3Q63 เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น QoQ จาก 31.70 บาท/US$ เป็น 30.10 บาท/US$ เมื่อสิ้นงวด 4Q63 นอกจากนี้ เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ ใน 4Q63 เนื่องจากมีการบันทึกค่าใช้จ่ายย้อนหลังของงวดสามไตรมาสแรก และโบนัสพนักงาน ซึ่งสองปัจจัยลบดังกล่าวกดดันให้บริษัทมีกำไรสุทธิเล็กน้อยใน 4Q63

Valuation and action

เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2564 เป็น 9.40 บาท จากเดิม 6.90 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีหน้า และมูลค่าธุรกิจถ่านหินที่เพิ่มขึ้น (จากเดิมที่เราใช้สมมติฐานเป็นศูนย์ในธุรกิจถ่านหิน) หลังจากที่ราคาถ่านหินฟื้นตัวขึ้นมาเหนือ US$50/ton ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน นอกจากนี้
ราคาเป้าหมายของเรายังได้รวมผลจากการ discount 25% ในของธุรกิจถ่านหิน จากประเด็น ESG หลังจากที่นักวิเคราะห์กลุ่มสาธารณูปโภคของเราออกบทวิเคราะห์กลุ่มโรงไฟฟ้าเรื่อง "ผลกระทบจากประเด็น ESG ต่อการ de-rate มูลค่าหุ้นในระยะยาว" เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2020

Risks

ความผันผวนของราคาถ่านหิน และมีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้านอกแผน