ระวังความผันผวนในช่วงสั้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายสัปดาห์ (OPEC+MSCI)

ระวังความผันผวนในช่วงสั้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายสัปดาห์ (OPEC+MSCI)

ราคาน้ำมันดิบปรับลงก่อนการประชุมโอเปค 30 พ.ย.-1 ธ.ค.

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงก่อนการประชุมโอเปคและพันธบมิตรเพื่อพิจารณาเรื่องขยายเวลาสำหรับมาตรการลดกำลังการผลิตที่จะสิ้นสุดในช่วง ม.ค.64 ซึ่งเราประเมินว่าไม่ว่าผลการประชุมจะออกมาเป็นเช่นไร ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสจะถูกขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาราว 200% นับจากจุดต่ำสุดในช่วงมี.ค.63 และเพิ่มขึ้นราว 18% จากสิ้นไตรมาส 2/63 ทั้งนี้ดัชนี SET Index ปรับขึ้นโดยหลักมาจากหุ้นพลังงาน ทำให้ต้องระวังความผันผวนของน้ำมันดิบที่อาจกระทบต่อหุ้นพลังงาน

MSCI ปรับน้ำหนักการลงทุนลง 30 พ.ย. โดยหุ้นไทยถูกลดน้ำหนักลงจาก 1.91% เหลือ 1.87% โดยดัชนี Global standard หุ้นเข้า DELTA, STGT /หุ้นออก IRPC, TMB/ เพิ่มน้ำหนัก AWC และลดน้ำหนัก PTT, CPALL, AOT, SCC, ADVANC, BDMS, PTTEP, INTUCH // ดัชนี Global Small Caps หุ้นเข้า BPP, ICHI, IRPC, JMART, M, RBF, TFG, TISCO, VGI / หุ้นออก STPI, THAI // ทั้งนี้เรามองตลาดตอบรับปัจจัยบวกจาก MSCI Rebalancing ไปพอสมควร จึงต้องระวังแรงขายปรับพอร์ตและทำกำไรในช่วงสิ้นวันที่ 30 พ.ย.

SET50 ที่ผลตอบแทน YTD Laggard สุด 25 ลำดับ: BANPU, TCAP, TMB, EGCO, KTB, MINT, KBANK, TOP, DTAC, TRUE, SCB, AWC, IRPC, VGI, BBL, WHA, BH, PTTEP, IVL, GPSC, BTS, RATCH, LH, BDMS, TISCO, SAWAD

ภาพรวมกลยุทธ์ โมเมนตัมระยะกลางเป็นบวก แต่ช่วงสั้นมีโอกาสผันผวนจากราคาน้ำมันดิบ และการปรับน้ำหนัก MSCI (30 พ.ย.) การเก็งกำไรเน้นเลือกรายตัว โดยเฉพาะ Laggard และกลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนพัธบัตรลง ขณะที่ไม่ควรไล่ราคาพลังงานและธนาคาร// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร SCGP*, VNT*, AGE*, SHR*

แนวรับ 1,390-1,400 จุด / แนวต้าน : 1,427 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

EU พร้อมรับมือ no deal Brexitประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เตือน สหภาพยุโรปพร้อมรับมือกรณีอังกฤษแยกตัวแบบไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit) ขณะที่ ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันในการเจรจาข้อตกลงการค้า

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีลดลงต่อเนื่อง – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนี เดือน พ.ย. อยู่ที่ระดับ -6.7 ลดลงต่อเนื่องจาก -3.2 ในเดือน ต.ค. โดยมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบต่อความคาดหวังด้านรายได้

คาดกำไรแบงก์ยุโรปฟื้นตัวขึ้นสู่จุดก่อนโควิดในปี 65ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB เปิดเผยรายงานทบทวนเสถียรภาพทางการเงินล่าสุด พบว่า ความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มธนาคารในยูโรโซนจะฟื้นตัวกลับขึ้นสู่ระดับก่อนโควิดได้ในปี 2565

นายกฯจองวัคซีนโควิด 26 ล้านโดส ได้ใช้กลางปี 64นายกฯลงนามจองวัคซีนโควิด 26 ล้านโดส คาดได้ใช้กลางปี 64 เตรียมกระจายทุกพื้นที่ทันที่เมื่อได้รับยา เตือนคนไทยการ์ดอย่าตก

สกุลเงินดิจิตอลปรับตัวลดลงแรง – หลายสกุลปรับลดลงในระดับ 10-20% หลังมีรายงานว่าประธานาธิปดีทรัมป์เตรียมออกกฎหมายควบคุมการใช้เงินดิจิตอลให้ทันก่อนสิ้นสมัยการบริหารงาน

สถานการณ์โควิด – อินเดียมีแนวโน้มประกาศเคอร์ฟิวกรุงเดลี, ขณะที่เยอรมันขยายมาตรการปิดเมือง ไปจนถึง 20 ธ.ค.และมีแนวโน้มอาจไปถึงต้นปี 2564

BBL วันที่ 24 ธ.ค.63 จะครบกำหนด 6 เดือนที่ ธปท. ขยายเวลาให้ Thai NVDR ถือหุ้น BBL ได้ในระดับ 35% หลังจากนั้นจะปรับลดลงเหลือ 25% ซึ่งหากมีการถือเกินเพดานดังกล่าว จะไม่ถูกบังคับให้ต้องขาย แต่จะไม่สามารถถือเพิ่มได้ ซึ่งสถานการณ์ที่นักลงทุนต่างชาติไม่สามารถลงทุนในหุ้น BBL ได้ดังกล่าวเป็นการจำกัด upside ของหุ้น

ประเด็นติดตาม: 30 พ.ย. – Chinese PMI เดือน พ.ย., TH economic data/ 1 ธ.ค. – EU CPI เดือน พ.ย., 3 ธ.ค. – TH consumer confidence เดือน พ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)