LPN - ถือ

LPN - ถือ

กำไรต่ำสุดนับตั้งแต่มหาอุทกภัย

LPN รายงานกำไรที่น่าผิดหวังแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มหาอุทกภัยในช่วงปลายปี 2011 โดนถูกดันจากรายได้ยอดโอนที่ลดลงและอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าปกติที่เคยทำได้ แม้ว่าราคาหุ้นอาจมีการเก็งกำไรปรับตัวขึ้นตามตลาดเนื่องจากมี valuation ที่ถูก เราเชื่อว่า LPN ระยะกลาง-ยาวบริษัทจะยังคงประสบปัญหาจากสภาพตลาดอสังหาฯและเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อให้กับกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นกลุ่มรายได้ระดับกลางจนถึงต่ำ และยอดขายจองรอโอนในปีหน้าที่เหลือน้อย

 

กำไรอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่มหาอุทกภัยปลายปี 2011

LPN รายงานกำไร 3Q20 ที่ 103ลบ. ลดลง 33% qoq และ 11% yoy ผลประกอบการต่ำกว่าที่เราประเมินที่ 120ลบ. 14% และต่ำกว่าที่ตลาดมอง 7% ประเด็นกดดันหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่สูงกว่าคาดที่ 261ลบ.เทียบกับประมาณการของเราที่ 242ลบ. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลดลงเพียง 3% qoq แม้ว่ารายได้จากการโอนจะลดลงอย่างมาก โดยสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 19.3% สูงกว่าไตรมาสก่อน 17.6% และ 18.5% ที่เราประเมิน

 

ยอดขายโอนลดลงพร้อมกับอัตรากำไรขั้นต้นทีต่ำกว่าปกติ

ผลประกอบการหลักอ่อนแอจากรายได้จากการโอนลดลงและอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าปกติ แม้ว่าจะมีการผ่อนผันมาตรการปิดเมืองในช่วงไตรมาสทีผ่านมา รายได้การโอนยังลดลงต่อโดยเหลือเพียง 1พันลบ. ใน 3Q20 ลดลง 18% qoq และ 8% yoy ด้านอัตรากำไรขั้นต้นรวมทรงตัวอยู่ที่ 30.4% แต่อัตรากำไรขันต้นจากธุรกิจที่อยูอาศัยลดลงมาอยู่ที่ 27% เทียบกับระดับปกติที่ 30-33% LPN ยังคงอัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าเพื่อที่จะขายระบายสต็อก โดยสต็อกคอนโดฯ ลดลงจาก 1.4หมื่นลบ. ก่อนหน้านี้สู่ระดับ 11หมื่นลบ. ณ สิ้นไตรมาส 3Q20

 

มุมมองที่ท้าทายจากยอดขายจองรอโอนที่เหลือเพียงเล็กน้อย

หากมองต่อไปข้างหน้า กำไรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นมากใน 4Q20 จากคอนโดมิเนียมใหม่สามโครงการที่มีกำหนดการโอนในไตรมาส อย่างไรก็ดี อนาคตยังดูท้าทายด้วยยอดขายจองที่รอโอนในปี 2021 ของคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับต่ำกว่า 1พันลบ. และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจฟื้นตัวที่ค่อนข้างช้าและความมั่นใจผู้บริโภคยังคงไม่ฟื้นตัวท่ามกลางภาวะความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัท เราจึงคงคำแนะนำ ถือ ที่ราคาเป้าหมายที่ Bt4.9