SPALI - ถือ

SPALI - ถือ

เตรียมแผนหากขาลงยืดเยื้อ

SPALI รายงานยอดจองแข็งแกร่งใน 3Q20 จากคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ที่ได้การตอบรับอย่างดีท่ามกลางซัพพลายเปิดใหม่ในตลาดที่มีน้อย ทั้งนี้เราคาดว่าบริษัทจะรายงานกำไร 3Q20 ฟื้นตัวกลับมาแรงหลังได้รับผลกระทบจาก Covid-19 อย่างไรก็ตาม เราคงคำแนะนำ ถือ ที่ราคาเป้าหมาย 18.5 บาท SPALI อาจมีอัพไซด์ของกำไรในปี 2021 จากการขายเงินลงทุน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะนำเงินมาจ่ายปันผลสูงขึ้น

 

ยอดขายจองแข็งแกร่งหลังมีการเปิดโครงการใหม่ในตลาดน้อย

SPALI มียอดจอง 2 หมื่นลบ. ในช่วง 9M20 เพิ่มขึ้น 11% yoy เทียบกับเป้าหมายบริษัทและประมาณการของเราที่ 2.6 หมื่นลบ. และ 2.2 หมื่นลบ. ตามลำดับ ยอดจองโครงการแนวราบมีผลการดำเนินงานที่ดีทั้งในกทม. (+17% yoy) และต่างจังหวัด (28% yoy) ขณะที่ยอดจองคอนโดฯในกรุงเทพฯทรงตัว yoy หลักๆมาจากโครงการคอนโดฯที่เปิดใหม่แล้วทำยอดขายจองได้ดี แต่ในส่วนยอดจองคอนโดฯต่างจังหวัดปรับตัวลดลง 42% yoy

 

ยอดปฏิเสธสินเชื่อและการยกเลิกการจองพุ่งสูง

แม้ว่าจะทำยอดจองได้ดี ฝ่ายบริหารได้ส่งสัญญาณว่ายอดโอนในปีนี้อาจไม่ถึงเป้าบริษัทที่ 2.4 หมื่นลบ. เนื่องจากยอดปฏิเสธสินเชื่อและการยกเลิกการจองจากลูกค้า โดยธนาคารมีความระมัดระวังและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น  ยอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 15% สู่ 18% ในขณะที่ยอดยกเลิกการจองจากลูกค้าเกินระดับวิกฤต subprime crisis ที่ 5% คาดว่าแนวโน้มนี้จะแย่ลงอีกใน 4Q20 ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า

 

ปีหน้ามีกำไรพิเศษจากการขายอาคารสำนักงาน แต่ยังไม่ชัดว่าเงินปันผลจะเพิ่ม

SPALI เผยว่าบริษัทจะขายอาคารสำนักงาน “Supalai Grand Tower” ที่พระราม 3 เข้ากอง SPALIRT เป็นมูลค่า 3.2 พันลบ. รายการนี้จะดำเนินการในช่วง เม.ย. - ต.ค. 2021 และเราคาดว่า SPALI จะมีกำไรจากการขายเงินลงทุนนี้ราว 1.15 พันลบ. (มูลค่าทางบัญชี 850 ลบ. และ ต้นทุนจากการการันตี REIT ที่ 1.2 พันลบ.) กำไรพิเศษจากการขายสินทรพย์นี้จะสร้างอัพไซด์ให้ประมาณการกำไรปี FY21 ของเราราว 19% สำหรับกำไรพิเศษนี้อาจสามารถมองเป็นเรื่องบวก แต่จะเป็นรายการพิเศษที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวอีกทั้งยังไม่ชัดเจนว่ากำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากส่วนนี้บริษัทจะนำมาจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นหรือสำรองเงินสดเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มซึมยาว